กว่าจะมาถึงวันนี้! ชีวิตดราม่าราวกับละครหลังข่าวของ ลิโอเนล เมสซี่

ไม่มีสโมสรแห่งไหนกล้าลงทุนกับเมสซี่เพราะ “เตี้ยเกินไป”

ไม่มีสโมสรแห่งไหนกล้าลงทุนกับเมสซี่เพราะ “เตี้ยเกินไป”

ในสมัยยังเด็กนั้น เมสซี่ เป็นนักเตะที่เก่งกาจในเรื่องการเลี้ยงบอล การทำประตู เป็นนักเตะหมายเลข 10 ดาวรุ่งที่น่าจับตามองเลยทีเดียว แต่ว่าค่านิยมของสโมสรที่คดจะปั้นนักเตะสักรายให้มาเป็นดาวรุ่งประจำทีม และพร้อมจะดันขึ้นทีมชุดใหญ่ในอนาคตนั้น พวกเขาอยากจะได้นักเตะอายุน้อยที่มีรูปร่างสูง กำยำ พอจะปั้นได้ แต่ว่าเมสซี่นั้นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามใช่แล้ว เขาอาจจะเป็นนักเตะที่เก่งกาจ ทักษะเป็นเลิศ แต่รูปร่าของเมสซี่ที่เตี้ยเกินไปนั้น มันเป็นอุปสรรคของหลายๆสโมสรในลีกอาร์เจนติน่า และแนวทางที่จะทำให้เมสซี่มีส่วนสูงที่เพิ่ม นั่นก็คือการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกายซึ่งต้องฉีดทุกสัปดาห์ติดต่อกันหลายเดือน แล้วก็นะ ไม่มีทีมไหนในอาร์เจนติน่ากล้าลงทุนแบบนั้น เพราะฮอร์โมนเข็มหนึ่งก็แพงมากเลยทีเดียว

เกือบไม่ได้อยู่กับบาร์ซ่า ถ้าไม่เจอป๋าดันนามว่า คาร์เลส เรซัค

เกือบไม่ได้อยู่กับบาร์ซ่า ถ้าไม่เจอป๋าดันนามว่า คาร์เลส เรซัค

พอมีโอกาสได้มาทดสอบฝีเท้ากับบาร์ซ่า จริงอยู่ที่ว่าเมสซี่จะสอบผ่าน แต่การจะได้เข้าอคาเดมี่ ลา มาเซียของบาร์เซโลน่า มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว เพราะบาร์เซโลน่าเองก็ไม่กล้าลงทุน จนกระทั่ง คาร์เลส เรซัค ตำนานนักเตะของบาร์ซ่าที่ตอนนั้นเป็นแมวมองของสโมสร ต้องเอาตัวเองเป็นประกันเพื่อการันตีความสามารถของเมสซี่ มันเลยทำให้เมสซี่ได้เข้าสู่อคาเดมี่ของบาร์ซ่า และยังเป็นคนที่ใช้กระดาษเช็ดปาก ช่วยเซ็นรับรองให้กับเมสซี่และพ่อของเขา เพื่อยืนยันว่าจอมทัพดาวรุ่งรายนี้จะได้เข้ามาฝึกฝีเท้ากับบาร์ซ่าอย่างเป็นทางการนั่นเอง

จากบ้านเกิดมาตั้งแต่เด็ก

จากบ้านเกิดมาตั้งแต่เด็ก

คนเรา ถ้าหากว่าจะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปอยู่ต่างจังหวัด ต้องไกลครอบครัว ไปเจอสังคมใหม่ ภาษาใหม่ วัฒนธรรมใหม่บางทียังอดไม่ได้ที่จะร้องไห้คิดถึงคนที่บ้านเลย แต่เมสซี่นั้น เขาไม่ได้แค่ว่าย้ายเมือง ย้ายจังหวัด แต่เขาต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศอาร์เจนติน่าไปยังประเทศสเปนเพื่อฝึกฝีเท้ากับบาร์ซ่าตั้งแต่อายุ 13 ปีเท่านั้นเขาจากบ้านเกิด เพื่อนบ้าน เพื่อนที่โรงเรียนเก่า ครอบครัวและญาติพี่น้องมาอยู่สเปนตั้งแต่เด็ก มันคือช่วงเวลาที่เมสซี่จะต้องมีความอดทนอย่างสูงเลยทีเดียว ที่จะต้องผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายไปให้ได้ แล้วมันก็หล่อหลอมให้เขากลายเป็นยอดแข้งได้ในที่สุด

เจ็บตัวแบบหนักสุดๆตั้งแต่ 1 ปีแรกในทีมชุดใหญ่

เจ็บตัวแบบหนักสุดๆตั้งแต่ 1 ปีแรกในทีมชุดใหญ่

เมสซี่ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่าในปี 2004 และเขาเองก็ได้ลงสนามแบบจริงๆจังๆมากขึ้นในฤดูกาล 2005-06 ทั้งในระดับลาลีกา และ โคปา เดล เรย์ เลยทีเดียว แม้กับแชมเปี้ยนส์ลีก เขาก็ได้ลงเล่น แต่แล้วในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ลีก 2005-06 ตัวของเมสซี่กลับโดน เดล ออร์โน่ แบ็กซ้ายของเชลซีในเวลานั้นเสียบข้อเท้าอย่างแรงจนเจ้าตัวเอ็นข้อฉีก ต้องพักทั้งฤดูกาล แล้วก็น่าเสียดายที่บาร์ซ่าในปีนั้น ไปไกลถึงขั้นคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เลยทีเดียว