คำถามมากมายที่อยู่เหนือ มิเคล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเขาเข้ามากุมบังเหียน “ไอ้ปืนใหญ่”เมื่อเดือนที่แล้ว โดยหลายคนมักมองว่าเขาอ่อนประสบการณ์ในการคุมทีม
หลายคนมองว่า อาร์เตต้า จะสามารถควบคุมห้องแต่งตัวที่มีผู้เล่นบิ๊กเนม และอดีตเพื่อนร่วมทีมที่อายุน้อยกว่าเขาเพียงไม่กี่ปีได้หรือไม่ และเขาจะสามารถควบคุมอำนาจในการจัดการทีมได้ดีกว่า อูไน เอเมอรี่ อดีต เทรนเนอร์ อาร์เซน่อล ได้หรือไม่
อาร์เตต้า อยู่ในตำแหน่งกุนซือ อาร์เซน่อล ได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ และคุมทีมลงสนามได้เพียง 4 เกมเท่านั้น แต่เขาได้ตอบคำถาม และข้อสงสัยเหล่านั้นไปหมดแล้ว โดยโค้ชวัย 37 ปี ได้ปลูกฝังวินัย และความทุ่มเทตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำหน้าที่ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
อเล็กซานเดร ลากาแซตต์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ของ อาร์เซน่อล กล่าวหลังเกมที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านเชือด “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาว่า “มิเคล ตะโกนใส่พวกเราดังมาก นั่นเป็นเพราะเราโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก”ขณะที่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ กล่าวว่า “เขาโกรธจริงๆ แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ”
ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า กล่าวว่า “เมื่อผมเห็นสิ่งที่ตัวเองไม่อยากเห็น และผมขอไม่พูดถึงเรื่องเทคนิค หรือแท็คติค ผมไม่สามารถมีความสุขกับฟอร์มของพวกเราได้ และผมต้องแจ้งให้พวกเขารู้ว่ามันไม่ดีพอ”
แม้ว่าสิ่งที่ให้กำลังใจมากที่สุดไม่ใช่ว่า อาร์เตต้า เต็มใจที่จะมอบทัศนคติที่ดีให้กับผู้เล่นของเขาแต่งตัว แต่มันก็เป็นการตอบสนองเป็นไปในเชิงบวก เมื่อ อาร์เซน่อล ถูกกดดันจากแนวรุกของ ลีดส์ ภายใต้การนำของ มาร์เซโล บิเอลซ่า โค้ชจอมเก๋าชาวอาร์เจนไตน์ อย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งเวลาหลัง อาร์เตต้า แก้เกม และเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก และความเข้มข้นที่มากขึ้นในเกมก่อนจะได้ประตูขึ้นนำจาก รีส เนลสัน กองกลางตัวรุกดาวรุ่งวัย 20 ปี ในนาทีที่ 55 และเป็นประตูชัยในท้ายที่สุด
มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อความของ อาร์เตต้า เชื่อมโยงไปถึงลูกทีม อาร์เซน่อล แล้ว โดยนายใหญ่ “เดอะ กันเนอร์ส” กล่าวว่า “มันเป็นบทเรียนที่ดีจริงๆสำหรับทีมนี้ ผมกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับลูกทีมทุกวัน และได้เห็นสิ่งที่พวกเขาต้องการเมื่อพวกเขาพ่ายแพ้และชนะ และวิธีที่พวกเขาสามารถตอบสนองเมื่อพวกเขาต้องการมัน”
ฟอร์มการเล่นในครึ่งแรกกับ ลีดส์ เป็นการเตือนว่า อาร์เตต้า และลูกทีมของเขานั้น ยังคงต้องเดินหน้าทำงานหนักกันต่อไป ซึ่งมันก็เหมือนในเกมที่พวกเขาสะดุดด้วยการบุกไปทำได้แค่เสมอกับ บอร์นมัธ 1-1 และเปิดบ้านพ่าย เชลซี 1-2 ในเกมลีก แต่การปรับปรุงแนวทางการเล่นของพวกเขาภายใต้หัวหน้าโค้ชคนใหม่นั้นชัดเจน
ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อาร์เตต้า ได้นำเสนอรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนกว่าที่ เอเมอรี่ เคยทำมาตลอดระยะเวลา 18 เดือนกับ อาร์เซน่อล โดยตอนนี้บรรดาแข้ง “เดอะ กันเนอร์ส” ใช้ความพยายามทำงานร่วมกันมากขึ้นโดยไม่มีลูกบอล และเน้นความสำคัญกับการครอบครองเกมด้วย ซึ่งสไตล์มันคล้ายกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อดีตทีมเก่าที่ อาร์เตต้า เคยทำหน้าที่มือขวา
อาร์เซน่อล ในยุคของ อาร์เตต้า มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนขึ้น ผลลัพธ์ก็คือ พวกเขาดูเหมือนมีทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งแทนที่จะโดดเด่นเป็นรายบุคคล แต่ความสม่ำเสมอยังคงเป็นปัญหาเมื่อพวกเขาต้องตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ในเกมกับ เชลซี และนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของนักเตะ อาร์เซน่อล สำหรับระยะทางที่ครอบคลุมทั่วสนาม และระยะทางวิ่งเฉลี่ยต่อเกมก็มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงจังหวะการเข้าปะทะ และการตัดบอลจากคู่แข่งที่มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้เล่นกลุ่มนี้ถูกซื้อเข้ามา และต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวทางของ อาร์เตต้า ทั้งในและนอกสนาม โดยเทรนเนอร์ชาวสเปน ปฏิเสธที่จะประนีประนอมกับสิ่งที่เขาต้องการจากลูกทีม เพราะเขาต้องการทำทุกอย่างให้ชัดเจน
อาร์เตต้า กล่าวในงานเปิดตัวของเขาว่า “ผมต้องการให้นักเตะรับผิดชอบงานของพวกเขาให้ดี และผมต้องการคนที่มอบความหลงใหล และพลังงานให้กับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ และใครก็ตามที่ไม่มีสิ่งนี้ หรือว่ามีผลกระทบเชิงลบหรืออะไรก็ตามสำหรับแนวทางของผม พวกเขาก็ไม่ดีพอสำหรับที่นี่”
มันเป็นสิ่งที่ปลุกให้ผู้เล่นเหล่านี้ต้องกระตือรือร้น และมีการปรับปรุงตัวเองทั่วทั้งทีม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอกชาวกาบอง ก็ต้องขยับมาเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ขณะที่ เมซุต โอซิล จอมทัพชาวเยอรมัน คืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง ส่วน ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางตัวรับชาวอุรุกวัย ก็ได้กลับสู่ทีมตัวจริง
อาร์เตต้า ได้ปรับปรุงทีมตามแนวทางของเขาได้อย่างรวดเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ นาโกล่าส์ เปเป้ ปีกทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ ที่ซื้อมาจาก ลีลล์ ทีมดังในลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 72 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น คืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ในแนวรับ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังชาวบราซิล และ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส ปราการหลังชาวกรีซ ก็กลับมาจับคู่กัน และโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเราอาจมองได้ว่า อาร์เตต้า มีแววที่จะกลายเป็นกุนซือชั้นยอดในอนาคต
ความชัดเจนในวิสัยทัศน์ของ อาร์เตต้า และความพยายามของผู้เล่นในสนามได้เปลี่ยนบรรยากาศในหมู่แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” ไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่า อาร์เซน่อล จะเล่นได้ไม่ดีนักในเกมกับ ลีดส์ แต่ก็ไม่มีเสียงโห่ที่ไม่พอใจจากอัฒจันทร์ในสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และเมื่อจบเกมกับ “ยูงทอง” บรรดาแฟนบอลยังคงยืนปรบมือให้กับนักเตะก่อนออกจากสนามอีกด้วย
มันเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสำหรับ อาร์เตต้า และถึงแม้จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่โค้ชชาวสเปน ยังคงเตือนผู้เล่นของเขาอย่างมีสติ โดยระบุว่า “เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะผ่อนคลายได้ เพราะเราไม่ดีพอที่จะผ่อนคลายกับผลงานของตัวเอง ถ้าเราไม่เล่นในระดับที่ผมต้องการได้ มันคือ เราก็ไม่ดีพอ”
ยังไม่ดีพอ แต่เริ่มดีขึ้น มิเคล อาร์เตต้า กำลังส่งสารของเขาไปทั่วทุกสารทิศ และ อาร์เซน่อล ก็รู้สึกถึงคุณค่าของเขาแล้ว
