แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นการเลื่อนศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2020 ออกไปเป็นเดือนมิถุนายน 2021 เพราะส่งผลกระทบถึงผู้ชมที่รอ ดูบอลสด และรอเชียร์ขอบสนาม แต่ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าไปทั่วโลกนั้น มันก็เป็นทางเลือกที่ยูฟ่าไม่สามารถปฏิเสธได้เลย
จากมุมมองในด้านฟุตบอลล้วนๆอาจมีบางสิ่งที่ดีสำหรับทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทัพของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ยูโร 2020 ถูกเลื่อนออกไปและพลพรรค “สิงโตคำราม” ควรใช้เวลาอีก 12 เดือนในการเตรียมความพร้อมของทีม และใช้เวลาที่เหลือเพื่อประโยชน์ของพวกเขา
ขณะเดียวกัน แฮร์รี่ เคน หัวหอกตัวเก่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่ต่างได้รับบาดเจ็บนั้น จะสามารถกลับคืนสู่ทีมได้ทันเวลา โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติอังกฤษผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
เคน ผู้คว้ารางวัลรองเท้าทองคำในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพในแนวรุกของอังกฤษ โดยดาวยิงวัย 26 ปี แบกความหวังในการทำประตูของ “สิงโตคำราม” เขาจบสกอร์ได้อย่างคมกริบ มีความกล้าหาญ และเล่นลูกโด่งได้อย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ เคน ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าและต้องพักยาวมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และอาจต้องใช้เวลาตลอดช่วงซัมเมอร์เพื่อเรียกความฟิตอีกครั้ง ซึ่งการหายไปของ หัวหอก สเปอร์ส ส่งผลให้อังกฤษขาดผู้เล่นระดับโลกในแนวรุก
ในขณะที่ แรชฟอร์ด กำลังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับ แมนฯยูไนเต็ด แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บที่แผ่นหลังเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน โดยดาวเตะวัย 21 ปี ถูกคาดหมายว่าจะต้องเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าหาก เคน ไม่สามารถลงสนามได้
ในศึกยูโร 2021 นั้น มันเป็นโอกาสดีที่ เซาธ์เกต จะได้ทั้ง เคน และ แรชฟอร์ด กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งมันจะทำให้อังกฤษมีตัวเลือกคุณภาพในแนวรุกและพลพรรค “สิงโตคำราม” อาจลุ้นเข้ารอบลึกๆได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ ปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตูอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด โกลด์ เอฟเวอร์ตัน, นิค โป๊ป มือกาว เบิร์นลี่ย์ และ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวาร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต่างกำลังถูกเถียงกันว่า ใครจะเป็นมือ 1 ของอังกฤษในการทำศึกยูโรครั้งนี้
ย้อนกลับไปในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย นั้น เซาธ์เกต มอบหมายให้ พิคฟอร์ด เป็นมือ 1 แต่ในเวลานี้ โกลด์วัย 26 ปี กลับประสบปัญหาฟอร์มการเล่นตกลงไปอย่างหนัก และทำผลงานให้กับ เอฟเวอร์ตัน ได้อย่างน่าผิดหวัง
ดูเหมือนว่า พิคฟอร์ด ซึ่งเป็นฮีไร่เซฟจุดอังกฤษ เอาชนะ โคลอมเบีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย นั้น ยังห่างไกลจากฟอร์มการเล่นที่ตัวเองเคยทำได้ และนั่นอาจทำให้ เซาธ์เกต ต้องพิจารณาอีกครั้ง
ขณะที่ โป๊ป เป็นหนึ่งในนายทวารชั้นยอดของพรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมของอังกฤษ โดนก่อนหน้านี้ เขาเคยเล่นให้กับทัพ “สิงโตคำราม” ไปแล้ว 2 เกม ส่วน เฮนเดอร์สัน ก็ทำผลงานให้กับ เชฟฟิลด์ ได้อย่างสุดยอด แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับทีมชาติชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียว
อย่างไรก็ตาม นายทวารทั้ง 3 ราย มีเวลาที่จะแสดงให้ เซาธ์เกต ว่าทำไมพวกเขาสมควรที่จะเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของอังกฤษ แต่อย่างน้อย พิคฟอร์ด ซึ่งอาจมีภาษีดีกว่าคนอื่นๆเพราะมีประสบการณ์ก็ต้องเร่งฟอร์มกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ในอดีตอังกฤษมีกองกลางระดับโลกมากมาย อาทิ เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคล์ส, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะหาคนที่มีศักยภาพมากกว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์กัปตันทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ แจ็ค เกรลิช จอมทัพ แอสตัน วิลล่า สมควรได้รับการตอบแทนด้วยการมีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยศึกยูโรครั้งหน้า แต่ดูเหมือนว่า ทัวร์นาเมนต์นี้อาจจะมาเร็วเกินไปสำหรับดาวรุ่งอย่าง ฟิลโฟเด็น ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เดเล่ อัลลี่ และ เอริค ดายเออร์ 2 กองกลาง สเปอร์ส รวมไปถึง เจสซี่ ลินการ์ด ปีก แมนฯยูไนเต็ด ต่างก็ต่อสู้กันในฤดูกาลนี้เพื่อโอกาสของตัวเอง ส่วนตัวเลือกอื่นๆอย่าง แฮร์รี่ วิงค์, เมสัน เมาท์ และ เจมส์ เมดดิสัน ยังไม่น่าจะได้เป็นตัวหลักในทีมของ เซาธ์เกต
ขณะเดียวกัน มีการพูดคุยกันในวงกว้างว่า เซาธ์เกต อาจตัดสินใจขยับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ แบ็คขวาดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล ขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่นั่นจะหมายความว่าอย่างไรสำหรับ เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้
หลังจากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อังกฤษล้มเหลวกับระบบในการพัฒนาเยาวชน แต่ในที่สุดเวลานี้ “สิงโตคำราม” มีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีแจ้งเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย อาทิ รีส เจมส์ แบ็คขวา เชลซี, แบรนดอน วิลเลี่ยม และ เมสัน กรีนวู้ด ของ แมนฯยูไนเต็ด รวมไปถึง บูกาโย ซาก้า ปีก อาร์เซน่อล
ในขณะที่ ลูอิส คุ๊ก กองกลาง บอร์นมัธ และ ฟิกาโย โทโมริ ปราการหลัง เชลซี ต่างก็พัฒนาตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับต้นสังกัดของพวกเขา และในอนาคตอันใกล้ประตูสู่ทีมชาติชุดใหญ่จะเปิดรับพวกเขาอย่างแน่นอน
ทีมของ เซาธ์เกต ยังคงต้องปรับส่วนผสมต่างๆให้ลงตัวกับบรรดานักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเขาเป็นส่วนสุดท้ายของจิ๊กซอว์ที่ทัพ “สิงโตคำราม” ตามหามาอย่างยาวนาน
อังกฤษเป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 รัสเซีย และมีค่าเฉลี่ยการติดทีมชาติเพียงคนละ 20 เกมเท่านั้น โดยทีมของ เซาท์เกต ทำได้ดีมากจนมันเป็นข้อพิสูจน์ว่า อายุไม่ใช่ปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จเสมอไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทุกคนจะบอกคุณว่า ประสบการณ์มีบทบาทอย่างมากในวงการฟุตบอลต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรอบลึกๆของการแข่งขันรายการสำคัญ
อังกฤษ ยังคงเป็นทีมที่ประสบการณ์น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณคำนึงถึงนักเตะอย่าง อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์, แรชฟอร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวรุก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ จาดอน ซานโช่ ปีกตัวเก่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
มันจะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการพัฒนา ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะได้เป็นตัวแทนของประเทศในการไปทำศึกสำคัญอย่างยูโร และช่วงระยะเวลา 12 เดือนต่อจากนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีในการให้บรรดาแข้งดาวรุ่ง “สิงโตคำราม” เก็บประสบการณ์เพิ่มเติม
