เมื่อค่ำคืนของวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หากใครนอนดึกเพื่อถ่างตารอดูศึกแดงเดือดนอกเกาะอังกฤษระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะกับ ลิเวอร์พูล คงเกิดอาการง่วงไปตามๆกันก็เล่นกันสะตี 4 กว่าจะจบก็ 6 โมงเช้านิดๆ คือต้องบอกแบบนี้ก่อนว่าใครเป็นแฟน เดอะ ค็อบ ตัวจริงก็คงจะนอนหลับกันสบาย ตื่นมาแบบชิลล์ๆแต่ถ้าใครเป็นแฟน เร้ดเดวิลส์ แล้วละก็นอกจากนอนไม่หลับแล้วโซเชี่ยลคงร้อนระอุเป็นไฟเพราะเกมนี้ผลการแข่งขันที่ออกมามันดันกลายเป็นว่ายอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ล่อเป้าซะเละเทะ 4-1
คงไม่ต้องมานั่งรายงานผลการแข่งขันว่าใครเป็นคนยิง เพราะเชื่อว่าหลายคนคงได้ดูไฮไลท์กันไปเต็มอิ่มแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแม้มันจะเป็น “แดงเดือด” แบบนอกรอบแต่ทำเอาแฟนบอล “ปีศาจแดง” รับไม่ได้อย่างรุนแรงกับผลการแข่งขันที่เกิด โอเคมันอาจเป็นการลองนักเตะใหม่ๆเป็นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นที่ไม่ได้มีความหมายอะไร อีกทั้งตัวหลักยังแทบไม่มีใครได้ลงสนามมากนัก แต่สิ่งเหล่านี้มันแสดงให้เห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับระบบการจัดการทีมระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กับ เจอร์เกน คล็อปป์ ยิ่งเมื่อดูเปอร์เซ็นต์การครองบอลในเกมยิ่งต้องบอกว่าเทียบไม่ติด เอาว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งในสนามที่บอลแทบจะเล่นอยู่ในฝั่งของ แมนฯยูไนเต็ด ทั้งหมด โดยที่ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวบุกเข้ามาทางโซนของ หงส์แดง เลยนั่นจึงเป็ยเหตุยิ่งทำให้แฟนบอลออกอาการรับไม่ได้อย่างรุนแรงกับการทำทีมของกุนซือชาวโปรตุเกส บางคนถึงขนาดบอกว่าให้ปลดออกจากทีมตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แม้มันเป็นไปไม่ได้แต่เหมือนระบายความอัดอั้นตันใจออกมาก็พอช่วยให้ดีขึ้นได้บ้าง รูปเกมนี้กลายเป็น Liverpool แทบพับสนามบุกอยู่ข้างเดียว บางช่วงเวลาที่ดูนอกจากจะง่วงได้ใจแล้วยังนึกว่าบอล อบต. เตะกับพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ กลายเป็นว่า มูรินโญ่ โดนเล่นงานซะแทบแทรกแผ่นดินหนี
กระนั้นเขายังไม่ได้แคร์หรือสนใจใดๆทั้งสิ้นพร้อมเดินหน้าตามความต้องการเขาต่อไป ส่วนในใจลึกๆแม้รู้ดีว่ามันแค่เกมอุ่นเครื่องแต่ก็ต้องรู้สึกเสียหน้ากันบ้างแหละไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนอยากเห็นทีมตนเองพ่ายแพ้ต่ออริตลอดกาลแบบเละเทะเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นมันกลายเป็นจุดให้ น้ามู ต้องคิดแล้วว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรู้สึก ว่าหากปีนี้ยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้ได้ โอกาสที่จะกระเด็นตกเก้าอี้มีสูงทีเดียว
