หมดเวลาสำหรับฝันเฟื่องของนิวคาสเซิ่ลแล้ว !?การแสดงออกจากผู้บริหารชุดใหม่ที่เต็มไปด้วยคำมั่นสัญญา กำลังใจ และความหวังนั้นขัดกับธรรมชาติของพวกเขาในเวลานี้ ที่ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีผลงานในระดับที่จะฝันไปไกลถึงดินแดนแอสการ์ดได้เสียหน่อย พวกเขาต้องการเอาชีวิตรอดจากการตกชั้นในพรีเมียร์ลีกให้ได้ ว่ากันว่าช่วงเวลาแห่งความหวังของพวกเขา มันคือช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ต้องยอมรับว่านิวคาสเซิ่ลเสียเปรียบตั้งแต่ต้นฤดูกาล เพราะตอนนั้นไมค์ แอชลีย ก็ยังเป็นผู้บริหารอยู่ และนิวคาสเซิ่ลเองก็ต้องโฟกัสอยู่ที่การลงเล่น 90 นาทีต่อสัปดาห์ไว้ก่อนด้วย ไม่มีเวลามาฝันอะไรที่มันยังเป็นไปไม่ได้และถ้าเรามองไปที่ค่าเฉลี่ยในการเก็บแต้มได้ต่อเกมของพวกเขานั้น น่าเป็นห่วงมาก คะแนนที่พวกเขาเก็บได้มันน้อยจริงๆ และมันกำลังจะส่งพวกเขาให้ร่วงไปสู่แชมเปี้ยนชิพในเวลานี้อยู่ความเงียบงันที่เกิดขึ้นรอบๆ เซนต์ เจมส์ พาร์ค นั้นอาจจะเป็นความเงียบที่ดูแตกต่างไปจากยุคสมัยที่ทีมชุดใหญ่ ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของสตีฟ บรูซ ที่ซึ่งแฟน ๆ นิวคาสเซิ่ลบางคนถึงกับเบือนหน้าหนี ไม่อยากเข้ามาชมเกมการแข่งขัน รับไม่ได้กับผลงานของทีมที่ดูไร้อนาคตเป็นอย่างมากในตอนนั้น แต่ว่าในเวลานี้แม้ว่า นิวคาเซิ่ล จะมีผู้บริหารกลุ่มใหม่ โค้ชใหม่ มาจัดการคอนโทรลทุกอย่างแล้วก็ตาม แต่มันคือความหวังที่กำลังฆ่าพวกเขาทั้งเป็นอยู่สิ่งที่เรียกว่า “ความหวัง” นั้นย่อมมีรากฐานมาจากความเป็นจริงที่ว่า มันจะเป็นไปได้ถ้าฟอร์มการเล่นโดยรวมของนิวคาสเซิ่ล มันพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ไอ้สิ่งที่นิวคาสเซิ่ลกำลังเผชิญอยู่น่ะ มันไม่ได้เป็นฟอร์มการเล่นที่ดีเลยจริงๆ
สภาพนักเตะที่อาจจะไม่สามารถช่วยทีมได้
อาการบาดเจ็บของ คัลลัม วิลสัน ที่เป็นกองหน้าตัวสำคัญของทีม มันได้ทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว ตัดสินใจที่จะหันไปทาบทาม คริส วู้ด กองหน้าของเบิร์นลีย์ ให้ย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ แต่ว่าการแข่งขันในช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้ วู้ด ที่ได้ลงเล่นนั้นก็แทบไม่ได้พาตัวเองเข้าไปใกล้ๆเขตหน้าปากประตูเลย เขาถูกบีบให้เล่นยาก โดนกันตัวให้ออกไปอยู่ในพื้นที่ด้านข้าง ทำให้การวิ่งเข้าเขตโทษเพื่อหาพื้นที่ในการทำประตูตามที่เขาถนัด ไม่สามารถโชว์ออกมาได้ในเกมประเดิมสนามในบ่ายวันนี้นิวคาสเซิ่ล อาจจะสร้างโอกาสได้มากมายในครึ่งแรก ก่อนที่พวกเขาจะได้ประตูนำจาก อัลลัน แซงต์-แม็กซิแมง ปีกชาวฝรั่งเศส แต่แทนที่นิวคาสเซิ่ลจะปิดเกมได้ในเกมนี้ พวกเขากลับไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ วู้ดก็หายไปจากเกม แล้วในที่สุดเพียงแค่ช่วงเวลาก่อนครบ 90 นาทีเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น เจา เปโดร นักเตะของวัตฟอร์ดก็ทำให้ความฝันที่จะเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ของนิวคาสเซิ่ลต้องดับอนาถในทันที ด้วยการซัลโวประตูตีเสมอได้สำเร็จเป็นสกอร์ 1-1สำหรับ คริส วู้ด เกมแรกของเขากับนิวคาสเซิ่ล เข้าขั้นล้มเหลว ดูเหมือนว่าแผนการลงทุนของฮาวจะบ้องตื้นและท่าดีทีเหลวมากเลยจริงๆ
นักเตะทีมชาตินิวซีแลนด์ เล่นได้น่าอึดอัดใจพอควร
ไม่ได้โชว์ทักษะการพักบอล ครองบอลที่เหนียวแน่นในกรอบเขตโทษ โดนบีบให้เล่นทางริมเส้น ไม่สามารถทำผลงานอะไรได้ดีแบบที่ วิลสัน เคยทำไว้ตอนที่สภาพร่างกายยังเป็นปกติมันหมายความว่า เมื่อกองหน้าตัวเป้าแบบ วู้ด เล่นไม่ออก มันก็เลยทำให้ความพยายามทั้งหมดของนิวคาสเซิ่ลที่พยายามจะทำเกมบุกจากริมเส้นในครึ่งแรกนั้นเป็นหมันไปหมด โดยที่ คีแรน ทริปเปียร์ และ ไรอัน เฟรเซอร์ ต่างก็ไม่สามารถหาทางผ่านบอลแม่นๆเข้าไปให้เพื่อนได้พักบอลในเขตโทษได้เลย พวกเขาไม่สามารถเปิดบอลจากริมเส้นให้ โจลิงตัน ได้มีโอกาสยิงประตูได้เลย ทุกอย่างมันเละเทะไปหมดอันที่จริง โอกาสที่อันตรายที่สุดแล้วเท่าที่ วู้ด สามารถทำได้ในเกมนี้ก็คือ จังหวะโหม่งที่เขาสะบัดหัวส่งบอลไปตกที่ด้านบนตาข่ายนั่นแหละ นอกนั้นคือทำอะไรได้ไร้ประโยชน์มากจริงอยู่ที่ว่า วู้ด คือการเซ็นสัญญาเพื่อนำมาแก้ปัญหาเรื่องสถิติการยิงประตูที่ฝืดเคืองของนักเตะนิวคาสเซิ่ล แต่ถ้าเราส่องดูดีๆนั้น วู้ด มีสถิติการยิงประตูเป็น 0 เลยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเมื่อมองกว้างๆ วู้ด สามารถทำประตูได้เพียงสามครั้งในฤดูกาลนี้ ก็น่าแปลกใจเช่นกันว่ากองหน้าวัย 30 ปีรายนี้ กลายมาเป็นอุวะหรือกลายมาเป็นภาระของนิวคาสเซิ่ลกันแน่ทุกอย่างอยู่ที่ความอดทนของทีมนี้แล้วว่าพวกเขาจะไปไหวแค่ไหนกัน!
