โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์ ! นักเตะระดับ “นิวซีดาน” ที่จุดพีคสั้นเกินอภัย

โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์ ! นักเตะระดับ “นิวซีดาน” ที่จุดพีคสั้นเกินอภัย

วงการลูกหนังฝรั่งเศส เคยพยายามตามหานักเตะระดับอัจฉริยะ ที่เก่งกาจพอที่จะกลายเป็น “นิวซีดาน” มาโดยตลอด และพวกเขาก็เคยได้ทำความรู้จักกับ “นิวซีดาน” อยู่มากมายหลายคน แต่ก็ไม่เคยมีใครไปถึงระดับที่หัวไข่ดาวเคยทำเอาไว้ได้เลย แม้แต่นักเตะที่เล่นในตำแหน่งที่แทบจะใกล้เคียงกับซีดานที่สุดอย่าง “โยอันน์ กูร์กคุฟฟ์” ยังไปไม่ถึงระดับของ ซีดาน ทั้งๆที่เขาเองก็มีศักยภาพดีพอที่จะกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับชั้นยอดได้ แต่มันก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ กูร์กคุฟฟ์ ไปไม่ถึงฝัน แถมยังหยุดพัฒนาจนกลายเป็นจอมทัพฝีเท้าดาดๆไปในพริบตาอะไรที่ทำให้ กูร์กคุฟฟ์ กลายสภาพจาก “นิวซีดาน” กลายมาเป็นแค่ “มิดฟิลด์ตัวรุกฝีเท้าธรรมดาๆ” มันเกิดขึ้นจากอะไร

อาการบาดเจ็บรบกวน ?

ในสมัยที่ กูร์กคุฟฟ์ ยังเป็นดาวรุ่งของสโมสร เอซีมิลาน และสโมสร บอร์กโดซ์ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเองก็เคยได้รับบาดเจ็บหนักอยู่หลายครั้ง ยิ่งในช่วงเวลาที่ กูร์กคุฟฟ์ ย้ายมาเล่นให้กับทีม โอลิมปิก ลียง เขาไม่เคยระเบิดฟอร์มในระดับเดียวกับที่เขาเคยช่วยให้ บอร์กโดซ์ คว้าแชมป์ลีกเอิง 2008-09 และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกเอิงได้เลยส่วนใหญ่นั้นเพลย์เมกเกอร์รายนี้มักจะต้องเข้าๆออกๆ โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งในช่วงอยู่กับลียง มันคือช่วงเวลาที่เขาเจอหน้านายแพทย์ พยาบาล ในโรงพยาบาลมากกว่าเจอหน้าเพื่อนร่วมทีมด้วยซ้ำเขาบาดเจ็บกล้ามเนื้อบ่อยครั้ง ซึ่งมันเป็นอุปสรรคในการพัฒนาฝีเท้า และสุดท้ายอาการบาดเจ็บหนักของจอมทัพรายนี้ มันก็ทำให้ทุกอย่างที่ควรพัฒนา ต้องหยุดนิ่งไปในที่สุด

อิมแพคต่อเกมไม่มีเลย

ปกตินักเตะสไตล์ “หมายเลข 10” จะต้องเป็นตัวตัดสินเกมเองได้ พลิกเกมด้วยตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลคิลเลอร์พาสจังหวะสุดท้ายให้ทีมได้ประตู หรือจะเป็นการยิงประตูแบบเหนือชั้นเพื่อช่วยทีมพลิกเกม แต่มันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับ กูร์กคุฟฟ์ เลยด้วยซ้ำเขามักจะหายไปจากเกมเสมอ ยามที่โดนประกบติดแน่นจนเล่นไม่ออก และยิ่งโดนตามประกบหนักๆจนทำอะไรยากก็ไม่ค่อยจะพยายามกระตุ้นตัวเองให้สู้หรือพยายามเรียกบอลจากเพื่อนเท่าไหร่ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงของจอมทัพตัวทำเกมรุกแบบ กูร์กคุฟฟ์ ที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ไม่มีอิทธิพลต่อเกม หรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผวาเวลาเจอเขาในสนาม

ไม่เคยย้ายไปเล่นให้กับทีมใหญ่

ไม่เคยย้ายไปเล่นให้กับทีมใหญ่

จะว่าไปถ้าเราลองพิจารณาดีๆ กูร์กคุฟฟ์ เคยมีโอกาสได้เล่นให้กับทีมใหญ่ที่เป็นระดับท๊อปของยุโรปแค่เพียง “เอซีมิลาน” เท่านั้นในฐานะดาวรุ่ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้แจ้งเกิดกับทีมแบบเต็มตัวและเมื่อเขาได้ย้ายกลับมายังบ้านเกิด เขาก็ได้เล่นให้กับสโมสร บอร์กโดซ์ ซึ่งเขาเล่นได้อย่างโดดเด่นจนพาทีมได้แชมป์ลีกเอิง 2008-09 แต่ว่าถ้าให้เทียบกับทีมอื่นๆในยุโรป บอร์กโดซ์ แทบจะไม่อยู่ในกลุ่มสโมสรชั้นนำระดับต้นๆของยุโรปด้วยซ้ำ แม้แต่ตอนที่ย้ายมาอยู่โอลิมปิก ลียง ก็พ้นช่วงยุคทองของสโมสรไปแล้วยิ่งไม่ได้อยู่ในทีมระดับท๊อป มันก็ยิ่งทำให้ชื่อของ กูร์กคุฟฟ์ หายไปจากความทรงจำของแฟนบอล จนแทบจะลืมไปเลยด้วยซ้ำว่านักเตะคนนี้ มีอะไรที่น่าสนใจ ยกเว้นความหล่อ

จุดพีคสั้นมาก

อย่างที่เราย้ำไปก็คือ บอร์กโดซ์ ได้แชมป์ลีกเอิง 2008-09 ก็ต้องชื่นชมฟอร์มการเล่นของ กูร์กคุฟฟ์ ที่เป็นจอมทัพของทีม และยังเป็นคนที่ช่วยทำให้ มารูยาน ชามัคห์ กองหน้าอดีตตัวทีมชาติโมร็อกโกทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำแต่ว่าหลังจากทีได้แชมป์ลีกเอิง 2008-09 พ่วงด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี เขาก็ไม่เคยกลับมาโชว์ฟอร์มที่ดีได้อีกเลย แม้แต่ในการเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสก็ไม่มีอะไรเป็นที่จดจำอีกด้วย เขาโดนใบแดงในฟุตบอลโลก 2010 และจากนั้นก็ฟอร์มดาวน์ยาวๆจนหายไปจากสารบบนักเตะชั้นนำที่มีแววจะรุ่งไปเลย

รับมือความกดดันไม่ไหว

รับมือความกดดันไม่ไหว

อย่างที่ทราบว่า กุร์กคุฟฟ์ ถูกยกย่องให้เป็น “นิวซีดาน” เพราะทั้งเคยเล่นให้กับ บอร์กโดซ์ ทีมเก่าของซีดาน แถมยังเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหมายเลข 10 แบบเดียวกัน และยังเคยทำประตูในลักษณะเดียวกันกับที่ ซีดาน เคยทำได้ตอนลงเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสครั้งแรกด้วยซีดาน ลงเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสนัดแรกในเกมกับ สาธารณรัฐเช็กในปี 1992 และยิงวอลเลย์ด้วยซ้ายตีเสมอ 2-2 ส่วนตัวของ กูร์กคุฟฟ์ ลงเล่นทีมชาติฝรั่งเศสนัดแรกในปี 2008 เจอกับโรมาเนีย และยิงวอลเลย์ด้วยเท้าขวาใส่ทีมชาติโรมาเนียจนเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ซึ่งมันคล้ายๆกัน และเมื่อมีอะไรหลายอย่างเหมือนซีดาน เขาก็ย่อมโดนยกย่องให้เป็น “นิวซีดาน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจอมทัพรายนี้เหมือนจะแบกรับภาระไม่ไหวในการโดนคาดหวังว่าจะเด่นจะดังเหมือน ซีดาน