“ผู้เล่นสเปอร์ส ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีความเชื่อมั่นในแผนการของโค้ชเลยนะ” แกรี่ เนวิลล์ นักวิจารณ์ของสกาย สปอร์ตส์ ได้กล่าวในระหว่าง ท็อตแน่ม ยังคงมีสกอร์ตามหลัง อาร์เซนอล อยู่ที่ 2-0 (เกมจบลงด้วยสกอร์ 3-1) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเสียประตูที่ 3 ตามมาในเวลาหลังจากนั้นไม่นานไม่น่าเชื่อว่าลูกทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ จะจนตรอกขนาดว่าต้องหันมาพึ่งพากลยุทธ์การจ่ายบอลยาวอย่างหนัก โดยเลี่ยงที่จะฝากบอลให้กับกองกลาง 3 รายช่วยทำเกมให้ ซึ่งข้ออ้างที่พอจะช่วยแถให้กับ นูโน่ ได้หน่อยนั่นก็คือเพราะกองกลาง 3 รายที่ยืนปักหลักอยู่ในสนาม เหมือนว่าจะยังเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่ (จริงเหรอ?)ในเกมดังกล่าว ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ และเดเล่ อัลลี่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกำลังวิ่งอยู่ในทรายดูดที่ทีมอาร์เซนอลก่อไว้ตรงกลางสนามเลยทีเดียว เพราะฝั่งของสเปอร์สนั้น กองกลางไร้ซึ่งบทบาท ต่อให้มีจังหวะให้ได้จับบอล ไม่นานก็โดนนักเตะอาร์เซนอลเข้าเพรสซิ่งจนเสียบอลไปแล้ว แถมครึ่งแรกพวกเขายังโดนกราดยิงเละเทะถึง 3 ประตู ก่อนที่มันจะจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน 3-1ผมตัดสินใจไม่ดีเอง” นูโน่กล่าวหลังเกมดาร์บี้อันสุดแสนจะห่วยแตกผมตัดสินใจผิด ผมขอปฏิเสธที่จะยกย่องผลงานตัวเอง มันเป็นความรับผิดชอบของผม นั่นคือทั้งหมดที่ผมต้องพูด ผมจะพูดกับผู้เล่นด้วยเช่นกัน เวลาพวกเราอยู่ด้วยกัน พวกเราต่างเปิดอกคุยกันอยู่แล้ว”
“แผนของเราไม่ได้ผลเพราะเราตัดสินใจไม่ดีมาแต่แรก”
ท็อตแน่ม กำลังประสบกับปัญหาในเรื่องการรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ โดยพวกเขาเล่นบอลเหมือนคนมีอาการเมาค้างมานานสองปีแล้ว ว่ากันว่ามันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่พวกเขาพ่ายแพ้ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศให้กับลิเวอร์พูลเมื่อปี 2019 และผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาในเวลานั้นอย่าง เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ ก็หมดไฟไปในที่สุด ในฤดูกาลถัดมาและได้อำลาทีมไปตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 ยังไม่จบด้วยซ้ำงานหนักๆ มันกำลังวางอยู่บนบ่าของ นูโน่ สเปอร์สชุดนี้เละเทะไปหมด และพวกเขาก็จะต้องพยายามก่อสร้างใหม่หมด ต้องเริ่มตั้งแต่ทีละเล็ก ทีละน้อย เหมือนอย่างที่เอฟเวอร์ตัน และคริสตัล พาเลซ กำลังทำกันอยู่แต่กระนั้นแล้วเมื่อตอนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ถูกไล่ออกในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2021 ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าหัวหน้าโค้ชของวูล์ฟในตอนนั้นจะเข้ามาแทนที่เขาเช่นกันนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร สเปอร์ส เคยกล่าวเอาไว้ในแถลงการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคมว่าสโมสรสูญเสีย ‘DNA ของความเป็นสเปอร์สอย่างแท้จริงไป (หมายถึงเกมรุก)’ เขาได้โดยยอมรับว่าถ้าหากจะเลือกผู้จัดการทีมคนต่อไป ก็ควรเป็นคนที่เน้นคุมทีมด้วยเกมรุกและสิ่งนี้ก็ได้นำไปสู่การดึงเอา นูโน่ ซึ่งมีสถิติคุมทีมวูล์ฟส์ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 42 เกมในปีที่แล้วโดยทีมเก่าของเขา สามารถทำประตูได้ 37 ประตูด้วยกัน
เปาโล ฟอนเซก้า
คืออีก 1 ชื่อของผู้จัดการที่ซึ่งตอนแรกเป็นตัวเต็งที่จะได้มาทำงานให้กับ สเปอร์ส ในช่วงฤดูร้อน โดยเรื่องราวดังกล่าวมันได้ถูกเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ฟาบิโอ ปาราติซี่ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เขาไม่ได้เซ็นสัญญากับสโมสรแห่งนี้ โดยอดีต CEO ของยูเวนตุสซึ่งได้รับการคัดเลือกจาก เลวี่ ให้มาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ของ สเปอร์ส ดูเหมือนจะต้องการผู้จัดการทีมที่เน้นเกมรับแบบหวังผลได้มากกว่าแผนการที่ยิ่งใหญ่ของ เลวี่ ที่หวังจะสร้างท็อตแน่มให้กลับมาเป็นทีมที่เน้นเกมรุก เน้นทำประตู กลายเป็นว่าล้มเหลวก่อนที่มันจะได้เริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งคนที่ขวางทางแนวทางที่เลวี่อยากจะทำ ก็ดันเป็นคณะกรรมการที่เขาจ้างมาเองกับมือนั่นเอง … จากนี้ไป ก็คงเป็นคำถามกันแล้วล่ะว่า สเปอร์ส มีจุดอ่อนอยู่ที่ไหน ที่นักเตะ ? ที่โค้ช ? หรือว่าที่ตัวบุคลากรระดับบิ๊กบริหารในสโมสรกันแน่ เพราะสเปอร์สตอนนี้ ห่างไกลเหลือเกินจากช่วงเวลาเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดทีมระดับท๊อปโฟร์ได้ติดต่อกันหลายปี !
