1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่สโมสรเดียวที่ต้องการตัวเขา
มันเป็นความจริงที่ว่า นอกเหนือจากความสนใจที่ทางสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นมาหาเคียซ่าในสมัยยังเป็นนักเตะของฟิออเรนติน่าแล้วนั้น มันยังมีสโมสรชั้นนำอีกมากมายที่ให้ความสนใจในการจะล่าลายเซ็นของนักเตะวัย 21 ปี โดยมีสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยู่ในกลุ่มสโมสรที่มีข่าวเชื่อมโยงกับปีกดาวรุ่งรายนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส และอินเตอร์ มิลาน ต่างก็คิดว่าพวกเขาจะทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวเขา – ดังนั้นแล้วถ้าหากตอนนั้นเขาคิดที่จะย้ายไปพรีเมียร์ลีก เมืองแมนเชสเตอร์อาจเป็นไปได้ (ถ้าเขาจะไป) เพราะทีมจากเมืองดัลก่าวถึง 2 ทีมนั้นอยากได้เขา แต่สุดท้ายนั้น เคียซ่า ก็เลือกยูเว่ในที่สุด
2. เขามีมูลค่าประมาณ 60 ล้านยูโร
อุปสรรคอีกประการหนึ่งที่ขวางทางทีมที่สนใจเขาในเวลานั้นก็คือ ค่าตัวที่สูงสุดๆเท่าที่ฟิออเรนติน่าได้ปักป้ายเอาไว้ในเวลานั้น โดยรายงานข่าวเมื่อ 2 ปีก่อนมีการยืนยันว่าฟิออเรนติน่า กลัวที่จะเสียเคียซ่าไปถึงขั้นตั้งค่าตัวแพงๆไว้เลย ฟิออเรนติน่า ไม่คิดที่จะปล่อยเขาไปด้วยเงินค่าตัวที่น้อยกว่า 60 ล้านยูโรแน่นอน และนั่นก็คือความสำคัญของเขาที่มีต่อทีม แต่สุดท้ายยูเวนตุสก็ยังได้ตัวไปร่วมทีมอยู่ดี
3. เขาเกือบจะทำให้ บุฟฟ่อน อับอายและเลิกเล่นบอลอาชีพมาแล้ว
ว่ากันว่านักเตะที่ได้ต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 กับ เคียซ่า มันคือฝันร้ายอย่างแท้จริง และครั้งหนึ่งมันเคยเกือบจะส่งผลเสียต่ออาชีพการค้าแข้งของ จิจี้ บุฟฟ่อน โคตรนายทวารในตำนานของยูเวนตุสมาแล้ว ก่อนที่ทั้งคู่จะได้เป็นเพื่อนร่วมทีมเขาเคยป่วนแนวรับของยูเวนตุส จนทำให้บุฟฟ่อนเหงื่อตกมาแล้ว และนอกจากนี้ บุฟฟ่อน ยังเคยเล่นให้ทีมชาติอิตาลีร่วมกับตัวของ เอ็นริโก้ เคียซ่า พ่อของเฟเดริโก้มาแล้ว ซึ่งในการเล่นบอลอาชีพของ เอ็นริโก้ เขาทำประตูได้ 171 ประตูจากการลงเล่นไป 503 เกมจาก 10 สโมสรในอิตาลีและผู้รักษาประตูระดับตำนานรายนี้ ก็ได้กล่าวว่า ตอนสมัยยังเป็นคู่แข่งกันในสนาม ลูกชายเพื่อนเก่ารายนี้ทำเอาเขาป่วนพอสมควร“ตอนที่ผมได้เผชิญหน้ากับเขาตอนแรกผมรู้สึกสับสนนะ” เขาบอกกับ Eurosport (ผ่านทาง OneFootball) เกี่ยวกับการได้ลงดวลแข้งกับ เฟเด้ ในอดีต “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นกับลูกชายของอดีตเพื่อนร่วมทีมของผม แล้วเขาก็ทำให้ผมหัวหมุนเลย บางทีผมก็เริ่มคิดนะว่ามันอาจจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องหยุดเล่นบอล”
4. เล่นให้ทีมชาติอิตาลีมาเกือบทุกระดับ
นับตั้งแต่เปิดตัวในนามทีมชุดใหญ่ของทีมชาติอิตาลีเมื่อเดือนมีนาคม 2018 เคียซ่าก็กลายเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติไปแล้ว และแน่นอนว่าเขาเป็น 1 ในแข้งสายเลือดใหม่ที่พร้อมจะไปเล่นในบอลยูโร 2021 ด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ในระดับทีมชาติของเขานั้นก็นับว่ายอดเยี่ยม เขาเคยลงเล่นให้กับทีมชาติอิตาลีมาแล้วทั้งรุ่น U21, U20 และ U19 จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
5. เขาเป็นปีกที่เล่นได้แค่เท้าเดียว
แม้ว่าเขาจะได้ชื่อว่ามีความสามารถในการเล่นเป็นปีกได้ทั้งสองฝั่ง และแข็งแกร่งพอสมควรในการเล่น แต่เขามีจุดอ่อนก็คือการเล่นบอลด้วยเท้าซ้ายที่ไม่ถนัด แต่ยามที่ลูกบอลเท้าเท้าขวาของเขา เขาสามารถเนรมิตทั้งการแอสซิสต์และการยิงประตูได้ทันที แถมยังเปิดบอลได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก
