แม้ว่าจะไม่ได้มีแชมป์อะไรประดับโปรไฟล์มากเท่าไหร่นัก แต่ว่าฝีเท้าและความสามารถของ ดิมิทรี ปาเยต์ ยอดเพลย์เมกเกอร์จอมติสต์แตก ก็ถูกยกย่องอย่างมากว่าเป็นนักเตะตัวทำเกมรุกที่มีพรสวรรค์สูงอีกคนแห่งยุคถ้าหากตัดเรื่องอุปนิสัยที่เข้าขั้นเป็นนักเตะที่สร้างเรื่องสร้างราวทั้งในและนอกสนามเอาไว้มากมาย ใจร้อน หุนหัน พร้อมจะวอร์กับนักเตะฝั่งตรงข้ามตลอด แต่ฝีเท้าและพรสวรรค์ของเขานั้นแทบจะไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใครเขาถนัดทั้งสองเท้า จ่ายบอลสั้นยาวแม่นยำ ยิงไกลได้หนักหน่วง คมกริบ เทคนิคเฉพาะตัวจัดจ้าน และนอกจากนี้ ฟรีคิกไซด์โค้งของเขายังแม่นยำราวจับวางอีกด้วย โดยเฉพาะกับสมัยที่อยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดและนี่คือเรื่องราวของ ดิมิทรี ปาเยต์ ที่เราจะนำมาเสนอให้กับทุกท่านได้ชมกัน !ดิมิทรี ปาเยต์ เป็นเพลย์เมกเกอร์สตาร์ดังที่มีผู้ติดตามใน Twitter มากกว่า 117,000 คน ซึ่งทุกคนสามารถเริ่มติดตาม Twitter ของเขาได้แล้วที่ @dimpayet17
เกาะ “รียูนิออน” ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ดิมิทรี ปาเยต์ มีที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียทางตะวันออกของมาดากัสการ์ และอยู่ห่างจากมอริเชียส ซึ่งเป็นเกาะเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 110 ไมล์
ดิมิทรี ปาเยต์ คว้าแชมป์แรกในชีวิตการเป็นนักเตะของเขาได้สำเร็จเป็นถ้วยแรกคือ โคเป เด ลา รียูนิออน ในปี 2004 โดยที่ในสมัยนั้นเขาเล่นให้กับทีม อาแอส เอ็กเซลซิเอร์ ซึ่งสามารถเอาชนะ 2-1 เหนือทีม US สต๊าด แทมโปไนเซ่ ในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลถ้วยรายการดังกล่าว
ดิมิทรี ปาเยต์ เซ็นสัญญากับทีม น็องต์ อดีตทีมชั้นนำของลีกฝรั่งเศส แต่เขายังได้แค่ลงเล่นในระดับทีมสำรองในปี 2005 โดยเขาลงเล่นให้กับทีมสำรองของสโมสรเพื่อลงต่อสู้ใน แชมเปี้ยน นุท เดอ ฟรองซ์ ซึ่งเป็นลีกสมัครเล่น และเทียบเท่ากับลีกดิวิชั่น 4 ของประเทศฝรั่งเศส
กองกลางตัวรุกรายนี้ มีโอกาสได้ลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พียงแค่ 15 ครั้งเท่านั้นสำหรับการได้ลงเล่นให้กับสองสโมสรที่แตกต่างกัน – ลีลล์และโอลิมปิก มาร์กเซย โดยเฉพาะกับมาร์กเซย ที่ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่ปาเยต์สร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้เป็นอย่างมากก่อนที่เขาจะได้ย้ายออกจากทีมเพื่อไปเล่นให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 2015 และต่อยอดไปถึงการไปเล่นฟุตบอลยูดร 2016 ในฐานะตัวทำเกมของทีมชาติฝรั่งเศส
ดิมิทรี ปาเยต์ ได้รับโอกาสเปิดตัวในฐานะนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ในปี 2010 ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือกที่ซึ่งฝรั่งเศสเอาชนะ 2-0 เหนือทีมชาติโรมาเนียเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2010 โดยเกมนี้ ปาเยต์ ลงเล่นในฐานะตัวสำรองของทีมนั่นเอง
ดิมิทรี ปาเยต์ และตัวของ มาร์ก็อง อามาลฟิตาโน่ ต่างก็เป็นสมาชิกของทีมโอลิมปิก มาร์กเซย มาก่อนแม้ว่าจะเป็นในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งคู่ได้อยู่กับทีม โดยพวกเขาย้ายมาอยู่กับ มาร์กเซย ในช่วงฤดูร้อนปี 2014 ก่อนที่ตัวของ อามาลฟิตาโน่ และ ปาเยต์ จะได้ย้ายไปเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และระเบิดฟอร์มในการเป็นหมายเลข 10 ระดับโลกในเวลาต่อมา
นักเตะจอมเทคนิควัย 28 ปีคว้ารางวัลดาวแอสซิสต์สูงสุดของลีกเอิงมาครองได้ โดยเขาทำแอสซิสต์ หรือจ่ายบอลให้เพื่อนยิงประตูได้มากถึง 17 แอสซิสต์จากการลงสนามให้มาร์กเซย 36 นัดในฤดูกาล 2014-15
ดิมิทรี ปาเยต์ ได้รับคะแนนโหวตจาก WhoScored.com ที่ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ใช้คำนวณสถิติทางด้านฟุตบอล และเขาเคยได้เรคคะแนนความสามารถเฉลี่ยอยู่ที่ 7.62 ต่อนัดเมื่อฤดูกาล 2014-15 ซึ่งเป็นคะแนนเฉลี่ยที่สูงที่สุดเป็นอันดับสี่ของผู้เล่นในลีกเอิงของฝรั่งเศสในเวลานั้นเลยทีเดียว
และนอกจากนี้ ดิมิทรี ปาเยต์ ยังเคยได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิงทั้งในฤดูกาล 2012-13 และ 2014-15ทุกวันนี้มันก็น่าเสียดายที่ตัวของ ปาเยต์ ไม่ได้ทำผลงานที่ดีเหมือนสมัยพีค จนทำให้เขาไม่ได้มีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสมานานหลายปีแล้ว แต่แฟนบอลก็ไม่มีวันลืมวีรกรรมของเขาแน่นอน โดยเฉพาะกับฟรีคิกสุดสวยที่ปั่นเสียบสามเหลี่ยมใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดช
