ย้อนไปอดีตถึงปัจจุบัน ฌาราร์ ปิเก Gerard Piqué

Gerard Piqué

บาร์เซโลน่า

Gerard Piqué Bernabéu หรือ เคราร์ด ปีเก้ เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1987 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวสเปน เล่นตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันมีสัญญาอยู่กับทีมบาร์เซโลน่า ปีเก้เป็นผลผลิตจากศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนที่ลามาเซีย เขาย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี2004 อยู่ที่นั่น 4 ปี แล้วจึงกลับมาอยู่กับบาร์ซ่าอีกครั้ง ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และช่วยให้สโมสรบาร์เซโลน่า คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาล2008-09 และ2014-15 เขาเป็น 1 ใน 4 นักเตะที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ได้ 2 ปี จากสโมสรที่แตกต่างกัน โดยก่อนหน้านี้คือ มาร์เซล เดซาล์ยี, เปาโล ซัวซ่า และซามูเอล เอโต้

ปีเก้ติดทีมชาติสเปนจำนวน 102 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2009 มีส่วนช่วยให้สเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก2010 และฟุตบอลยูโร2012

ระดับสโมสร

ช่วงเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอล

ปีเก้เกิดที่เมืองบาร์เซโลน่า แคว้นคาตาโลเนีย เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับทีมเยาวชนของบาร์เซโลน่า ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่ก่อนที่เขาจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับบาร์เซโลน่า เขาก็ตัดสินใจไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ประเทศอังกฤษ โดยไม่มีค่าตัว เนื่องจากสัญญาของเขาในตอนนั้นยังเป็นสัญญาสำหรับเยาวชน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ปีเก้ลงเล่นเกมส์แรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนตุลาคม 2004 โดยลงไปแทนจอห์น โอเชีย ในนาทีที่ 67 รายการฟุตบอลลีกคัพ ที่ชนะทีมครูว์ อเล็กซานดร้า 3-0 และได้ลงเล่นแบบเต็มเกมส์ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2005 ที่เสมอกับทีมเอกเซเตอร์ ซิตี้ 0-0 ในฟุตบอลเอฟเอคัพ ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก นัดแรก วันที่ 15 ตุลาคม 2005 ในฐานะตัวสำรองที่ลงมาแทนจอห์น โอเชีย เป็นเกมส์ที่ชนะซีนเดอร์แลนด์ 3-1 เขาได้ลงเล่นในฐานะตัวจริงในฟุตบอลลีกครั้งแรก วันที่ 29 มีนาคม 2006 ในเกมส์ที่เปิดบ้านเจอกับ เวสต์แฮม โดยลงเล่นในตำแหน่งแบ๊คขวา เนื่องจาก แกรี่ เนวิลล์ได้รับบาดเจ็บก่อนเกมส์นั้น

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี ทำให้เขาได้รับสัญญาใหม่ในเดือนกุมพาพันธ์ 2005 โดยมีสัญญาถึงปี2009 อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 สิงหาคม 2006 ทีมจากลาลีกา คือเรอัล ซาราโกซ่า ได้ยืมตัวปีเก้ไปใช้งานจนจบฤดูกาล โดยในสัญญาระบุให้ปีเก้ต้องลงเล่นอย่างน้อย 20 เกมส์ และเขาได้ลงเล่นทั้งหมด 22 เกมส์ เคียงข้างนักเตะชาวอาร์เจนติน่าอย่าง กาเบรียล มิลิโต้ ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง และกองกลางตัวรับ

วันที่ 5 พฤษภาคม 2007 มีการประกาศว่า ปีเก้จะอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดไป โดยอเล็ก เฟอร์กูสัน ประเมิณจากฟอร์มการเล่นในช่วงที่เขาถูกยืมตัวไป วันที่ พฤษภาคม ในช่วงที่มีการประชุม เพื่อหารือถึงอนาคตของปีเก้ โดยทั้งทั้งสองฝ่ายได้ประชุมกัน แต่ไม่มีเฟอร์กูสันอยู่ด้วย เนื่องจากติด ปัญหาเรื่องสายการบิน

ปีเก้กลับมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง และได้ลงเล่น 9 เกมส์ในฤดูกาล2007-08 โดยเริ่มจากการได้ลงเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ที่เอาชนะทีม ดินาโม เคียฟ 4-0 ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2007 โดยปีเก้ทำประตูแรกของตัวเองให้กันทีมได้ในนัดดังกล่าวด้วย ทำให้เขาเป็น 1 ในนักฟุตบอล 450 คนที่ทำประตูให้กับสโมสรที่ลงเล่นได้อย่างน้อย 1 ประตู และประตูที่สองที่เขาทำได้ เกิดขึ้นในเกมส์ที่ไปเยือนโรม่า ใน วันที่ 12 ธันวาคม 2007 ในฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก

บาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า ปิเก้

วันที่ 27 พฤษภาคม 2008 ปีเก้เซ็นสัญญา 4 ปีกับทางสโมสรบาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวในการย้ายทีม 5 ล้านปอนด์ และค่าเซ็นสัญญาอีก 5 ล้านยูโรสำหรับนักเตะ เขาพอใจการกลับมาร่วมทีมเก่าครั้งนี้มาก แม้ว่าเขา จะมีความสุขในการอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยเช่นกัน

“ ผมดีใจมากๆที่ได้กลับมาที่นี่ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาอีก แต่ที่แห่งนี้ดีมากๆสำหรับผม ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่และผมสนุกกับการเป็นแชมป์ การลงเล่นกับนักฟุตบอลระดับโลกช่วยพัฒนาผม และตอนนี้ผมจะสานต่อสิ่งนั้นกับบาร์ซ่า”

ปีเก้ทำประตูแรกให้กับบาร์เซโลน่า ในฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก ที่ชนะสปอร์ตติ้ง ซีพี 5-2 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2008 และทำประตูในการแข่งฟุตบอลในประเทศได้อีกใน 2 เดือนต่อมา วันที่ 29 มกราคม 2009 ฟุตบอลโคปา เดล เรย์ เจอกับทีมเอสปันญ่อล เขาทำประตูได้จากลูกเตะมุมในนาทีที่ 57 ช่วยให้บาร์ซ่าชนะไปได้ 3-2 วันที่ 2 พฤษภาคม 2009 ทำประตูที่ 6 ให้ทีมเอาชนะทีมเรอัล มาดริด 6-2 ถึงซานติอาโก เบอร์นาบิว

วันที่ 13 พฤษภาคม 2009 เขาได้แชมป์รายการแรกกับทางบาร์เซโลน่า หลังช่วยทีมเอาชนะ แอตเลติค บิลเบา ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโคปา เดล เรย์ สามวันต่อมา บาร์ซ่าก็ได้แชมป์ฟุตบอลลีก หลังเรอัล มาดริดแพ้ต่อ บียาร์เรอัล 2-3 ทั้งที่เหลือการแข่งขันอีก 2 เกมส์จึงจะจบฤดูกาล วันที่ 27 พฤษภาคม 2009 ได้ลงแข่งกับทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก และเป็นบาร์เซโลน่าที่ชนะไป 2-0 คว้า 3 แชมป์ได้ในปีเดียวกัน วันที่ 19 ธันวาคม 2009 ปีเก้ช่วยให้ทีมบาร์ซ่า เอาชนะทีมจากอาร์เจนติน่าอย่าง เอสตูเดนเต้ 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกไปครอง โดยเขาแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตุได้ในนาทีที่ 89 ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไป และเป็นบาร์เซโลน่าที่ทำประตูได้ และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010 ปีเก้ขยายสัญญากับบาร์เซโลน่าออกไปถึงปี2015 วันที่ 28 เมษายน 2010 เขาทำประตูให้กับทีมได้ ในฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง แม้ว่าทีมต้องตกรอบด้วยผลรวม 2-3 ประตู

ปีเก้ขยายสัญญากับบาร์เซโลน่า

วันที่ 28 พฤษภาคม 2011 เขาได้เขาชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่สอง โดยบาร์ซ่าแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ วันที่ 1 พฤษภาคม 2013 เขาทำเข้าประตูตัวเอง ส่งผลให้ทีมบาร์เยิร์น มิวนิค ชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 และ 7-0 ตกรอบเพียงแค่นี้ วันที่ 20 พฤษภาคม 2014 เขาขยายสัญญากับทีมอีกครั้งถึงปี 2019

วันที่ 6 มิถุนายน 2015 ปีเก้เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกกับบาร์เซโลน่า และคว้าแชมป์ครั้งที่ 5 ในรายการนี้ หลังเอาชนะยูเวนตุสมาได้ ที่สนามโอลิมปิคสเตเดี้ยน กรุงเบอร์ลิน ทำให้บาร์ซ่าเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้า 3 แชมป์เป็นครั้งที่สอง คือ ฟุตบอลลีกในประเทศ, ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และฟุตบอลถ้วยระดับทวีปยุโรป โดยมีนักเตะเดิมที่อยู่ร่วมทั้งสองครั้งคือ ปีเก้, เมสซี่, อิเนสต้า, ซาบี ,บุสเกสต์, อัลเวส และเปโดร

วันที่ 18 มกราคม 2018 ปีเก้ขยายสัญญาฉบับใหม่ โดยมีสัญญาอยู่กับทีมถึงปี2022

ระดับทีมชาติ

ทีมชาติสเปน

ทีมเยาวชน

ปีเก้ติดทีมชาติสเปนชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี2006 ที่ได้แชมป์ฟุตบอลยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีในปีนั้น ในเกมส์นัดชิงชนะเลิศที่ชนะสก๊อตแลนด์ 2-1 ปีเก้ลงเล่นอย่างแข็งแกร่งในตำแหน่งกองหลัง ป้องกันการโจมตีจากลูกเปิดริมเส้น และยังมีส่วนร่วมในประตูที่สองของ อัลแบร์โต บูโน่

ปี2007 ในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เขาได้ลงเล่นครบทั้ง 6 เกมส์ และทำประตูได้ในเกมส์ที่เจอกับทีมชาติบราซิล และเอาชนะได้ 4-2 ในรอบ16ทีม อย่างไรก็ตามเขามาพลาดการยิงลูกโทษในเกมส์ที่เจอกับทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก และสเปนก็จบด้วยการเขาถึงเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ

ทีมชุดใหญ่

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2009 ปีเก้ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ ในเกมส์อุ่นเครื่องกับทีมชาติอังกฤษ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เขาได้ลงเล่นเต็มเกมส์ และช่วยให้ทีมสเปนเอาชนะไปได้ 2-0 เกมส์ที่สองในระดับทีมชาติ คือวันที่ 28 มีนาคม 2009 เขาถูกเรียกมาทดแทน คาร์เลส ปูโยล และเขาทำประตูเดียวในการแข่งขัน ให้กับทีมชาติสเปนเอาชนะทีมชาติตุรกี ในฟุตบอลโลก2010 รอบคัดเลือก ที่สนามซานติอาโก เบอร์นาบิว สี่วันต่อมา เขาลงเป็นตัวจริงช่วยให้สเปนเอาชนะตุรกีที่สนามอิสตันบูล 2-1

ปีเก้ได้ลงเล่นให้ทีมชาติในฟุตบอลระดับทัวร์นาเม้นต์ ครั้งแรก ในฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 2009 โดยลงเป็นตัวจริง 4 จาก 5 เกมส์ ช่วยให้สเปนคว้าอันดับสามในครั้งนี้

ปีเก้เป็นตัวเลือกแรก ในการลงเล่นกองหลังเคียงข้าง คาร์เลส ปูโยล ในฟุตบอลโลก2010 รอบชิงชนะเลิศ ที่แอฟริกาใต้ และตลอดการแข่งขัน 7 เกมส์ ปีเก้ลงเล่นครบทุกนาทีในการแข่งขันฟุตบอลยูโร2012 โดยลงเล่นคู่กับ เซอร์จิโอ รามอส และช่วยให้สเปนคว้าแชมป์มาครองได้ โดยตัวเขาเองก็ติดทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันด้วยเช่นกัน

ปี2013 ในฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นคัพ ปีเก้โดนใบแดงในเกมสืที่แพ้บราซิล 0-3 จากการทำฟาวล์ใส่เนย์มาร์ ส่งผลให้เป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของทีมชาติสเปนหลังไม่แพ้ใครเลย 29 เกมส์ ในฟุตบอลยูโร 2016 เกมส์นัดเปิดสนาม ปีเก้ทำประตูที่ 5 ในนามทีมชาติ ช่วยให้สเปนเอาชนะทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก 1-0 และในฟุตบอลโลก 2018 วันที่ 20 มิถุนายน เกมส์ที่เอาชนะอิหร่าน 1-0 ปีเก้ก็ติดทีมชาติครบ 100 เกมส์

วันที่ 11 สิงหาคม 2018 ปีเก้ตัดสินใจประกาศเลิกเล่นทีมชาติ สไตล์การเล่น

ปีเก้ถือเป็นกองหลังสมัยใหม่ มีความแข็งแกร่ง และเทคนิคดี การส่งบอลดี ทั้งยังมีร่างกายที่สูง เขาเล่นลูกกลางอากาศได้ดี แม้ว่าตำแหน่งหลักๆคือกองหลัง แต่ก็สามารถขยับขึ้นมาเล่นกองกลางตัวรับได้

ชีวิตส่วนตัว

ปีเก้สร้างครอบครัว

ปีเก้สร้างครอบครัวของเขาที่ คาตาลัน พ่อของเขาคือ โจอัน เป็นนักธุรกิจ แม่คือ โมนต์เซอร์รัต เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในบาร์เซโลน่า เขามีน้องชายคือ มาร์ค ปู่ของเขาคือ อมาดอร์ เบอร์นาบิว เป็นอดีตรองนายกของบาร์เซโลน่า ช่วงต้นปี 2011 ปีเก้มีความสัมพันธ์กับนักร้องสาวชาวโคลัมเบีย ชากีร่า ทั้งคู่เจอกันในงานมิวสิค วิดีโอ เพลง วาก้า วาก้า (เวลานี้ของแอฟริกา) ซึ่งเป็นเพลงหลักในฟุตบอลโลก2010 ทั้งคู่เกิดวันเดียวกัน แต่ห่างกัน 10 ปี มีลูกด้วยกันสองคน คือ มิลาน และ ซาช่า