จากสูงสุดสู่สามัญของ “ไซโด้ เบราฮิโน่”

 

ตั้งแต่ บูจุมบูไร ไปจนถึง เบลเยี่ยม ดูเหมือนว่าอาชีพค้าแข้งของ “ไซโด้ เบราฮิโน่” อดีตหัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษนั้นจะเต็มไปด้วยแอ็คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ อย่างไรก็ตาม มันน่าแปลกใจเช่นกันว่าทำไม เบราฮิโน่ ทุกวันนี้ถึงได้ “ดับสนิท”
มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ เบราฮิโน่ ถูกมองว่าเป็นอนาคตของกองหน้าในนามทีมชาติอังกฤษเลยด้วยซ้ำ
หลังจากสอดแทรกขึ้นมาเล่นในทีมชุดแรกของทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้ในฤดูกาล 2013-14 เขาถูกมองว่าเป็นกองหน้าหมายเลข 9 ที่คุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นยอดนักเตะ และยังทำผลงานที่ร้อนแรงขึ้นมาได้
กองหน้ารายนี้ซัดไป 9 ประตูในการแข่งขันทุกรายการในฤดูกาลนั้น ก่อนที่ในการแข่งขันในฤดูกาล 2014-15 จะเปิดฉากขึ้น เขาก็ยังได้ทำสิ่งที่น่าทึ่งให้แฟนบอลได้เห็นอีก เขาทำประตูได้ 20 ลูกโดย 14 ลูกที่ยิงได้ คือการตะบันในพรีเมียร์ลีก
ด้วยค่าเฉลี่ยในการยิงที่สูงแบบนี้ มันทำให้ทุกคนสงสัยว่ากองหน้าดาวรุ่งรายนี้ (ในเวลานั้น) จะไปได้ไกลแค่ไหนและเขาจะก้าวหน้ามากขึ้นกว่านี้หรือไม่ จะมีสโมสรชั้นนำแห่งไหนที่จะให้โอกาสกับเขา
ชื่อเสียงของ เบราฮิโน่ ในเรื่องของการทำประตูนั้นโด่งดังไปไกล จนเกิดเป็นข้อพิพาทในเรื่องการแย่งกันเซ็นสัญญากับเขาจากทีมชั้นนำมากมาย
ครั้งหนึ่ง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส เคยส่งสัญญาณให้เขาได้รู้ว่า พวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้กับหัวหอกรายนี้เพื่อทำให้เขาเป็นกองหน้าระดับโลก !
สเปอร์สมีชื่อเสียงในเรื่องการปั้นแข้งเยาวชนขึ้นมาติดทีมชาติอังกฤษมาแล้วหลายรุ่น แต่ว่าข้อเสนอของ สเปอร์ส ก็ถูกปฏิเสธโดยสโมสรของ เบราฮิโน่ ในช่วงฤดูร้อนปี 2015
การเสนอราคาครั้งแล้วครั้งเล่าถูกปฏิเสธ โดยครั้งที่ 4 และยังเป็นครั้งสุดท้ายนั้น ได้เกิดขึ้นในวันกำหนดเส้นตายการซื้อขายนักเตจะ ซึ่งมันทำให้ เบราฮิโน่ รู้สึกหงุดหงิดที่เวสต์บรอมไม่ยอมปล่อยเขาไปล่าฝันกับ สเปอร์ส เขาเลยจัดการโพสต์ระบายอารมณ์ลงใน Twitter ซึ่งเขาคะนองปากสุดๆด้วยการโพสต์ว่า เขาจะไม่เล่นให้กับสโมสรเวสต์บรอมอีกต่อไป ถ้าประธานยังเป็น เจเรมี่ เพียร์ซ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาถูกปรับเงินจากสโมสร เพราะการโพสต์ประชดแบบนั้น และในภายหลังเขาก็ได้กล่าวขอโทษประธานในที่สุด แต่ฤดูกาลนั้นกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นของกองหน้ารายนี้
ในเดือนมกราคม 2017 การย้ายไปร่วมทีมระดับพรีเมียร์ลีกอีกทีมอย่าง สโต๊ค ซิตี้ ก็ได้เกิดขึ้น – มันเป็นการย้ายทีมด้วยค่าตัวมูลค่าทั้งสิ้น 12 ล้านปอนด์ – และในขณะเดียวกัน กองหน้ารายนี้ก็ยอมรับว่าเขาเสียเวลากับสโมสรเดิมของเขานานเกินไป

น่าเสียดายที่การย้ายครั้งนั้นพิสูจน์แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ โดยเบราฮิโน่ไม่สามารถทำประตูแรกเป็นการประเดิมให้กับ สโต๊ค ได้จนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม 2018 เลยทีเดียว มันเป็นเวลา 913 นาทีเลยทีเดียวที่เขายิงไม่ได้ หลังจากยิงได้ในเกมนัดสุดท้ายที่เขาเล่นให้กับทัพ แบ็กกี้ส์ จนกระทั่งย้ายมาสโต๊ค แต่สุดท้ายนั้น “ช่างปั้นหม้อ” ก็หล่นไปเล่นในระดับแชมเปี้ยนชิพในที่สุด
ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานของ นาธาน โจนส์ เขาไม่เพียงถูกดรอปไม่ให้ลงสนามเท่านั้น แต่ยังถูกยุติสัญญาโดยสโต๊คเองด้วย หลังจากที่ เบราฮิโน่ ถูกจับกุมและถูกตัดสินลงโทษในความผิดฐานดื่มสุราแล้วขับรถ
แล้ว ไซโด้ เบราฮิโน่ ตอนนี้ล่ะ? กองหน้ารายนี้เพิ่งจะมีอายุเพียง 27 ปีและยังมีโอกาสในการกลับมาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอีกพอสมควร พรสวรรค์ในตัวเขายังเหลืออยู่ในตัวเขาอีกมากมาย
แต่ล่าสุดนั้นเขาได้ตัดสินใจที่จะย้ายออกจากลีกฟุตบอลอังกฤษและไปเล่นในลีกเบลเยี่ยมในเดือนสิงหาคม 2019
เขาย้ายไปเข้าร่วมทีม ซัลเต้ วาเรกุม ซึ่งเขาทำได้ 8 ประตูในการแข่งขันทั้งหมดทุกรายการในปีแรกก่อนที่จะได้ย้ายมาเข้าร่วมงานกับสโมสรปัจจุบันของเขานั่นคือ ชาร์เลรอย แบบยืมตัวในเดือนตุลาคมปี 2020 พร้อมตัวเลือกในการซื้อตัวถาวร
กองหน้ารายนี้ สอดแทรกตัวเองเข้าสู่ทีมชุดหลักของ ชาร์เลอรอย ได้ทันที ซึ่งเป็นการเล่นในเบลเยียมโปรลีก (ลีกสูงสุด) เขาทำประตูได้ในสองเกมแรกของเขาที่ลงสนามเปิดตัว และนอกเหนือจากผลงานในสนามแล้วนั้น เขายังมีช่วงเวลาส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเขาได้ต้อนรับการลืมตาดูโลกของลูกสาวของเขาด้วย