ฆอร์ดี้ ครัฟฟ์ เพราะนามสกุลของพ่อมันทำให้กดดัน !

ฆอร์ดี้ ครัฟฟ์ เพราะนามสกุลของพ่อมันทำให้กดดัน !

ฆอร์ดี้ ครัฟฟ์ … ถ้าหากว่าเป็นแฟนบอลยุค 90 ก็น่าจะพอได้ยินมาบ้างถึงเรื่องราวของ “ลูกชายของ โยฮัน ครัฟฟ์” บางคนอาจจะมองว่านี่ก็เป็นแค่นักเตะลูกไม้หล่นไกลต้น ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับเหล่าลูกๆและทายาทของนักบอลชื่อดังหลายคน ที่ไม่อาจจะสร้างตำนานของตัวเองได้ ต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของชื่อเสียงพ่อแม่ตัวเองจนทำอะไรไม่ได้ว่ากันว่า ครัฟฟ์ จูเนียร์ ก็เข้าข่ายนั้นเช่นกัน !แฟนบอลย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าในสมัยที่ โยฮัน ครัฟฟ์ คุณพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ และยังเล่นบอลอาชีพอยู่นั้นทั้งในฮอลแลนด์ และ สเปน เขาเก่งกาจมากแค่ไหน … บัลลงดอร์ 3 สมัยคนแรกในประวัติศาสตร์ ได้ทุกแชมป์กับอาแจ็กซ์ , ประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลนา ได้รองแชมป์โลกกับทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นศูนย์กลางเกมรุกของสโมสรและทีมชาติในระบบ “โททัลฟุตบอล” อันเกรียงไกร และไม่พอ … เวลามีการจัดอันดับนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลนั้น ครัฟฟ์ มักจะมีชื่อติดอยู่ในกลุ่ม TOP5 ร่วมกับ เปเล่ และ ดิเอโก้ มาราโดน่าด้วยเสมอ เรื่องเกมรุกนั้น ครัฟฟ์ คนพ่อทำได้ทุกอย่าง ทั้งการเลี้ยงบอล เปิดบอล ยิงประตู มีเทคนิคแพรวพราว และยังมีความเป็นผู้นำสูง ฉลาดเป็นกรด ยิ่งมาเป็นโค้ชก็ยิ่งเก่ง เขาทำให้อาแจ็กซ์และบาร์เซโลนาประสบความสำเร็จอย่างสุดๆ แต่เมื่อมองมาที่ ฆอร์ดี้ ซึ่งตัวของ โยฮัน ลงทุนตั้งชื่อและเรียกชื่อของลูกชายตัวเองให้มีสำเนียงแบบสเปน-คาตาลุนญ่า เลยนั้น (ฆอร์ดี้ เกิดที่บาร์เซโลนา ในยุคที่โยฮันยังเป็นนักเตะของบาร์ซ่า) เขาไม่เคยไปไกลถึงระดับที่พ่อตัวเองเคยทำไว้เลย … เพราะอะไรบ้างล่ะที่ทำให้เขาไปไม่ไกล

นามสกุลครัฟฟ์คือสิ่งที่ทำลายเขา

เพราะเป็นลูกชายของครัฟฟ์ มันย่อมทำให้ตัวของ ฆอร์ดี้ โดนคาดหวังว่าจะต้องเก่งแบบพ่อ นามสกุล CRUYFF ที่ปักอยู่ที่หลังเสื้อของเขานั้นย่อมทำให้แฟนบอล นักข่าว นักวิจารณ์จับตาดูเขาเป็นพิเศษในเวลาเขาลงสนาม และได้สัมผัสบอล แถมยังเล่นเป็นตัวรุกคล้ายๆกับพ่ออีก มันก็ยิ่งทำให้ตัวของเขาโดนคาดหวังมากจนไม่เป็นตัวของตัวเองครัฟฟ์ จูเนียร์ ยังต้องมาแบกรับสิ่งที่เรียกว่า “เด็กเส้น” อีกต่างหาก โดยเฉพาะตอนอยู่กับบาร์เซโลนา เขาโดนพ่อของเขาที่กำลังเป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาชุดใหญ่ เรียกตัวมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่และได้รับการผลักดันให้ลงสนามด้วย มันเลยทำให้แฟนบอลและนักวิจารณ์บางพวกที่มองว่า ครัฟฟ์ จูเนียร์ ฝีเท้ายังไม่ถึงขั้นจะเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้นั้น เหมือนเป็นเด็กเส้นของพ่อตัวเองมากกว่า

ไม่สามารถเบียดแย่งโคตรสตาร์ของหลายๆทีมได้

ไม่สามารถเบียดแย่งโคตรสตาร์ของหลายๆทีมได้

ตอนสมัยที่ครัฟฟ์เลื่อนชั้นสู่ทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลนา เขาต้องเจอกับโคตรนักเตะหลายคนขวางทางเขาอยู่ โดยเฉพาะในแรวรุกของทีม ไล่ตั้งแต่ ไมเคิล เลาดรู๊ป , โฆเซ่ มารี บาเกโร่ , ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ และรวมถึง โรมาริโอ แค่พวกนี้ก็ยากแล้วที่จะไปสู้และเบียดแย่งตัวจริงได้และยิ่งตอนย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็อุดมไปด้วยสตาร์ค้างฟ้าหลายคน โดยเฉพาะกับในยุคนั้นที่ เอริค คันโตน่า ยังอยู่ในทีม ไหนจะมีปีกตัวฉกาจอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ และ เดวิด เบ็คแฮม อยู่ในทีมด้วย ยากมากที่จะเบียดครัฟฟ์ จูเนียร์ ไม่ใช่ว่าไม่เก่ง แต่ตัวของเขานั้นต้องแบกรับกับสิ่งที่แฟนบอลเรียกเขาว่า “ลูกชายครัฟฟ์” มากกว่าจะเรียกเขาว่า “ฆอร์ดี้” ซะด้วยซ้ำไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะสู้ไม่ไหวกับการเป็นนักเตะอาชีพ

ไปเด่นกับทีมเล็กๆ ที่ซึ่งไม่ค่อยมีใครคาดหวังและสนใจ

ไปเด่นกับทีมเล็กๆ ที่ซึ่งไม่ค่อยมีใครคาดหวังและสนใจ

ไม่น่าเชื่อว่า ฆอร์ดี้ ที่เป็นถึงอดีตเด็กปั้นบาร์ซ่า เคยเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ไปเล่นให้กับทีมเล็กๆในลีกสเปนที่ต้องวุ่นกับการหนีตกชั้นอย่าง อลาเบส ซะแบบนั้นแต่กระนั้นแล้วผลงานของ ฆอร์ดี้ ในยามเล่นให้ทีมนี้กลับดีอย่างไม่น่าเชื่อ เขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญในเกมรุก และช่วยให้ทีมเข้าชิงยูฟ่าคัพในปี 2001 ด้วยและพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศนั่นเองเพราะเล่นให้ทีมเล็กๆ ไม่ได้มีลุ้นแชมป์อะไร ก็ไม่น่าแปลกใจที่แฟนบอลจะไม่ค่อยสนและตัวของเขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ แต่ก็มาดีเอาตอนปลายอาชีพค้าแข้งแล้ว นับว่าน่าเสียดายมากจริงๆ