คัมแบ็คทูมายโฮม ! เหล่าแข้งดังกับการได้กลับสู่ทีมเก่าตัวเอง

เหล่าแข้งดังกับการได้กลับสู่ทีมเก่าตัวเอง

การคืนสู่เหย้าของนักเตะชื่อดัง มันมีทั้งการกลับมาแล้วผลงานดีกว่าเดิม หรือมีทั้งกลับมาแล้วผลงานทรงๆ ไม่เหมือนกับสมัยที่อยู่กับทีมในช่วงแรก หรือไม่เช่นนั้นก็คือกลับมาเล่นกับทีมแล้วแป้กไปเลยก็มีให้เห็นถมไป ฉะนั้นแล้ววันนี้ เราจะมาดูเหล่านักเตะที่มีโอกาสได้คัมแบ็คกลับมาเล่นให้กับทีมที่เจ้าตัวสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้มากที่สุด แต่ผลงานในการคัมแบ็คกลับมาช่วยทีมจะเป็นยังไงนั้น เรามาดูกันเป็นรายตัวเลยดีกว่า !

ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ

ตำนานกองหน้าทีมชาติบัลแกเรียรายนี้ ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในการเป็นนักเตะระดับโลกด้วยการค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เขาคว้าแชมป์ลาลีกาได้ถึง 4 สมัยซ้อนเลยทีเดียว รวมถึงได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ 1 สมัยอีกด้วย

แต่น่าเสียดายที่หลังจากการเล่นให้กับทีมชาติบัลแกเรียในฟุตบอลโลก 1994 ผ่านไปได้ราวๆ 1 ปี และเจ้าตัวก็ได้รางวัลบัลลงดอร์ในช่วงปลายปี 1994 ตัวของ สตอยช์คอฟ ก็ได้ตัดสินใจอำลาการเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ด้วยการไปเล่นในลีกอิตาลี โดยที่หน้าตำแหน่งซ้ายพิฆาตรายนี้ได้ย้ายไปเซ็นสัญญากับสโมสร ปาร์ม่า

หากเปรียบเทียบการเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า มันคือ ”สวรรค์” แต่ที่ ปาร์ม่า นั้นมันไม่ต่างกับ “นรก” เลยทีเดียว เพราะตลอดช่วงเวลาที่เขาเล่นให้กับ ปาร์ม่า นั้น มันถึงขั้นทำให้ระบบการเล่นของทีมต้องเปลี่ยนไปเล่นด้วยสูตร 4-3-3 เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของ สตอยช์คอฟ ที่จะเล่นอยู่ในตำแหน่งกองหน้าตัวด้านขวา ที่จะทำให้เขาสามารถใช้เท้าซ้ายลากตัดเข้าในเพื่อจ่ายบอลหรือยิงประตูได้ตามที่เขาชอบ แถมด้วยความที่ปกติก็เป็นนักเตะสไตล์ตัวหน้าต่ำ เน้นการสร้างสรรค์เกม เป็นราชาลูกฟรีคิกอีก มันเลยเป็นการไปทับตำแหน่งกับ จานฟรังโก้ โซล่า ตัวทำเกมหมายเลข 10 ของ ปาร์ม่า เข้าให้เต็มๆ

และด้วยผลงานของ สตอยช์คอฟ ในทีม ปาร์ม่า ที่ไม่ปัง แถมยังเล่นทับตำแหน่งกับ โซล่า ทำให้ทีมต้องปรับระบบการเล่นไปเล่นในสูตร 4-3-3 ที่ สตอยช์คอฟ ถนัดอันเป็นเหมือนกับว่าตัวของเขามีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นมากไป มันเลยทำให้ โซล่า เกิดอาการไม่ชอบขี้หน้า สตอยช์คอฟ อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

และท้ายที่สุดนั้น สตอยช์คอฟ ก็ได้เลือกจะอำลาการเล่นให้กับ ปาร์ม่า ด้วยการย้ายกลับไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า อีกครั้งในอีก 1 ปีต่อมา

แต่มันก็ไม่ใช่สวรรค์แบบเดิม เพราะการกลับมาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า เป็นคำรบที่ 2 นั้น คนที่ดึงตัวเขามาเล่นกับทีมอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ก็ลาออกจากการทำทีมไปแล้ว และคนที่มาทำทีมก็เป็นเทรนเนอร์นามว่า “หลุยส์ ฟาน กาล” ที่ขึ้นชื่อเรื่องไม่ง้อสตาร์อยู่แล้ว มันเลยทำให้การคัมแบ็คสู่ทีมรอบ 2 ของ สตอยช์คอฟ มายัง บาร์ซ่า มันก็ไม่ต่างจากนรก ส่วนเขาจะเป็นตัวสำรองมากกว่า และยังไม่กินเส้นกับ LVG อย่างชัดเจนและสุดท้ายนั้น เขาก็ย้ายออกจากทีมอีกครั้งหนึ่ง

คลาส แยน ฮุนเตลาร์

กองหน้ารายนี้คือการคัมแบ็คสู่ทีมเก่าตัวเองได้คุ้มค่าที่สุดแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ยิงประตูระเบิดระเบ้อเหมือนในช่วงเวลาแรกที่เขาอยู่กับทีมก็ตาม

ฮุนเตลาร์ เป็นกองหน้าสไตล์เบอร์ 9 รุ่นเก่าที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำให้กับ อาแจ็กซ์ เลยทีเดียว แต่มันน่าเสียดายที่การค้าแข้งกับทีมช่วงแรกนั้น เขาได้แค่แชมป์ KNVB คัพมาครองเท่านั้น และยังได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของลีกมาครองอีกด้วย ด้วยสถิติการยิงกว่า 30 ประตูในทุกฤดูกาลของเขา

หลังจากที่ได้เวลาในการออกไปพิสูจน์ตัวเองในลีกระดับท็อปของยุโรปนั้น ฮุนเตลาร์ ไปล้มเหลวอย่างมากในการเล่นให้กับ เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน เขาไม่สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนเคย จนกระทั่ง แสงสว่างในปลายอุโมงค์ก็ส่องแสงสว่างจนได้ เขาได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสร ชาลเก้ 04 ในบุนเดสลีกา และที่นี่เองที่เขาสำแดงเดชจนได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของบุนเดสลีกามาครองได้ แต่ก็ยังไม่มีแชมป์รายการไหนๆเลยกับทีม ชาลเก้

สิ่งที่ยังขาดในโปรไฟล์ของ ฮุนเตลาร์ ก็คือ การคว้าแชมป์ “ลีก” ให้ได้สักครั้งหนึ่ง ซึ่งมันก็ทำให้เขาย้ายกลับสู่สโมสร อาแจ็กซ์ อีกครั้งในฐานะตัวเก๋าที่จะช่วยประคองตัวรุ่นน้องในทีม แต่อย่างน้อยการคัมแบ็็คครั้งนี้ของศูนย์หน้าจอมเก๋าอย่าง “เดอะ ฮันเตอร์” ก็สามารถเติมเต็มความฝันของเขาได้สำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

งานนี้สำหรับ ฮุนเตลาร์ แชมป์ลีกอาจจะมาได้ตอนช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง แต่ประโยคที่พูดว่า “มาช้าดีกว่าไม่มา” มันก็ยังชัดเจนจริงๆ

มัตเตีย เปริน

มาถึงที่นักเตะรายล่าสุดที่ได้คัมแบ็คสู่ทีมเก่าเป็นรายต่อมา นี่เพิ่งเกิดขึ้นในตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2020 นี่เองสำหรับตัวของ มัตเตีย เปริน ผู้รักษาประตูหน้าหล่อของ ยูเวนตุส ที่ทนไม่ไหวแล้วกับสถานการณ์ของตัวเองในทีม ยูเวนตุส ที่ทำได้แค่เป็นตัวสำรองให้กับทางด้าน จอง จานลุยจิ บุฟฟอน และ วอยเจียค เชสนี่ มันเลยทำให้เขาตัดสินใจที่จะคืนสู่เหย้าด้วยการกลับไปเล่นให้กับ เจนัว เป็นรอบที่ 2 เพื่อเรียกความมั่นใจในการเล่นกลับมาอีกครั้งก่อนที่จะถึงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 แต่ก็ไม่มีใครกล้ารับรองได้ว่าเขาจะกลับมาเล่นดีได้หรือไม่

มัตเตีย เดสโตร คือนักเตะที่มีฝีเท้าน่าจับตามอง

มัตเตีย เดสโตร

มัตเตีย เดสโตร คือนักเตะที่มีฝีเท้าน่าจับตามองอย่างมากเช่นกันในสมัยที่เขาเล่นให้กับทีม เจนัว และรวมถึงกับทีม เซียน่า และยังมีโอกาสค้าแข้งกับทีม โรม่า ด้วย แต่ว่าเมื่อเจ้าตัวเริ่มที่จะเจอตอ เพราะ โรม่า เองก็มียอดกองหน้าหลายคนอยู่ในทีมในช่วงเวลาที่เจ้าตัวค้าแข้ง ไล่ตั้งแต่ตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , สเตฟาน เอล ชาราวี่ มันเลยทำให้โอกาสในการลงเล่นของ เดสโตร ดร็อปลงอย่างมากเลยทีเดียว

จากนั้นเจ้าตัวก็มีโอกาสย้ายไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน แบบยืมตัวเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่สามารถทำผลงานได้ดีเลยจริงๆ จนสุดท้ายเขาเองก็ได้ระเห็จไปเล่นกับ โบโลญญ่า ทีมระดับหนีตกชั้น แต่ว่าก็ไม่สามารถกลับมามีฟอร์มเก่งได้เท่าที่ควรจะเป็น

ล่าสุดนั้น เดสโตร ได้กลับบ้านเก่าอีกครั้ง โดยเขาได้กลับมาแก้ตัวกับทีม เจนัว อีกครั้งหนึ่งในตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2020 โดยมีภารกิจก็คือการพาทีม เจนัว หนีตกชั้นให้ได้

โลธาร์ มัทเธอุส

ตำนานมิดฟิลด์ชาวเยอรมันรายนี้ เคยสร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค มาก่อนเป็นเวลา 4 ปีก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งช่วงเวลาในการเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ก็จัดว่า มัทเธอุส มีผลงานที่โดดเด่นในแง่ผลงานส่วนตัวเป็นอย่างมาก เขาได้บัลลงดอร์มาครองในปี 1990 และยังพาทีมชาติเยอรมันได้แชมป์ฟุตบอลโลก 1990 อีกด้วย

ช่วงเวลา 4 ปีที่เขาอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน มันน่าเสียดายที่เขาไม่ได้แชมป์เซเรียอามากกว่าที่คิดไว้ เมื่อเขาได้แชมป์เซเรียอา 1 สมัยเท่านั้น แต่ว่าการผจญภัยในอิตาลีก็นับว่าไม่สูญเปล่า เขาได้ประสบการณ์ในการเล่นในลีกต่างแดนกลับมาช่วยทีม บาเยิร์น มิวนิค ในคำรบสองได้ดีกว่าที่คิด เขาได้แชมป์บุนเดสลีกากับทีมเพิ่มอีก 3 สมัยเลยทีเดียว แถมยังมีรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 1999 ที่พลาดท่าให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในช่วงนั้นตัวของ มัทเธอุส ก็ไม่ได้เล่นเป็นมิดฟิลด์เหมือนที่เคยเล่นมาทั้งชีวิตแล้ว และได้ถอยไปเล่นเป็นตัว ลิเบอโร กับ สวีปเปอร์เต็มตัว

ดิเอโก้ มาราโดนา

สุดยอดตำนานนักเตะชาวฟ้าขาวรายนี้ คือตำนานนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกของยุค 80 เลยทีเดียว ในอดีตนั้น มาราโดนา เคยสร้างผลงานในการเล่นอันยอดเยี่ยมเอาไว้กับทีม โบค่า จูเนียร์ มาก่อน ซึ่งเขาได้แชมป์มากมายกับสโมสร โบค่า จูเนียร์ จนเป็นราชันย์ลูกหนังของสโมสรที่เก่งที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว !

หลังจากที่ถึงเวลากับการท้าทายลีกยุโรป เขาก็ได้ย้ายไปเล่นในลีกยุโรปให้กับสโมสรดังอย่าง บาร์เซโลน่า และ นาโปลี ซึ่ง มาราโดนา นั้นค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปอยู่หลายปีเลยทีเดียว จากนั้นเจ้าตัวก็มีโอกาสกลับมาเล่นให้กับ โบค่า จูเนียร์ ด้วยวัยที่มากขึ้น แต่ก็มีประสบการณ์อันโชกโชนจากลีกยุโรป ที่มาช่วยประคองรุ่นน้องในทีม และแน่นอนว่าเจ้าตัวก็ยังคงคลาสในการเล่นไว้ได้มากพอสมควร เขาได้พาทีม โบค่า จูเนียร์ คว้าแชมป์ได้มากมายหลายรายการเลยทีเดียว ก่อนที่จะเลิกเล่นบอลอาชีพไปในปี 1996

เชส ฟาเบรกัส

อดีตจอมทัพทีมชาติสเปนรายนี้ เคยเป็นนักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า มาก่อน แต่ไม่ได้รับโอกาสในการส่งตัวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่โดยตรง โดยตัวของเขาโดนดึงตัวไปเล่นให้กับ อาร์เซน่อล ก่อนในวัย 16 ปี ซึ่งเขาได้รับโอกาสจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ในการส่งตัวลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 17 ปีเลยทีเดียวในปี 2003

แต่ว่าในอีก 8 ปีต่อมานั้น เมื่อหัวใจของมิดฟิลด์ตัวรุกดีกรีแชมป์โลกรายนี้มันร่ำร้องว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องกลับมายังบ้านเกิด นั่นคือ บาร์เซโลน่า แถมยังโดนรุ่นพี่ในทีมชาติสเปนที่เป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า ช่วยกันชง ช่วยกันเชียร์ให้มิดฟิลด์รายนี้ย้ายกลับมายัง บาร์เซโลน่า ด้วยอีก มันยิ่งทำให้ตัวของเขาเริ่มอยากกลับบ้านชัดเจนมากขึ้น

และสุดท้ายนั้น เจ้าตัวก็ได้ย้ายคืนถิ่นคัมป์นู ในนามทีมชุดใหญ่ตอนกลางปี 2011 สมใจอยาก และตลอดเวลา 3 ปีที่เขาอยู่ที่นี่ เขาได้แชมป์ลาลีกา 1 ครั้ง แชมป์โคปา เดล เรย์ 1 ครั้งและยังมีถ้วยสแปนิช ซูเปอร์คัพในนัดที่แสนดราม่าเพราะมีเรื่องมีราวกันระหว่างนักเตะ สตาฟโค้ช ของ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ด้วยเช่นกัน

เคราร์ด ปิเก้

เจ้าหนุ่มผู้นี้ ผู้ที่มีความฝันอยากจะเป็นประธานสโมสร บาร์เซโลน่า เหลือเกินนั้น เคยเป็นนักเตะเด็กปั้นของ บาร์เซโลน่า ในทีมเยาวชนรุ่นราวคราวเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เชส ฟาเบรกัส แต่สุดท้ายนั้นเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาก็ได้รับการเพาะบ่มฝีเท้าโดยตรงจากรุ่นพี่ในทีมหลายคนที่เป็นแข้งเกมรับฝีเท้าดี ทั้งตัวของ เนมานย่า วิดิช , ริโอ เฟอร์ดินานด์ และรวมถึงอีกหลายๆคน

ในปี 2008 ในช่วงที่ เป๊ป กวาดิโอลาร์ ได้กลายเป็นเทรนเนอร์ของทีม บาร์เซโลน่า เขาก็ได้จัดการเซ็นสัญญากับ ปิเก้ กลับมาเล่นกับ บาร์ซ่า และแน่นอนว่าหลังจากนั้นมันคือตำนานอย่างแท้จริง

ปิเก้ กลับมาเล่นกับ บาร์ซ่า