เมซุต โอซิล ถ้าหากว่าเป็นช่วงเวลาเมื่อ 10 ปีก่อน เชื่อได้เลยว่าแฟนบอลจะต้องตื่นตาตื่นใจกับเพลงแข้งของมิดฟิลด์ตาโปนรายหนึ่งที่ทำให้โลกลูกหนังต้องสวยงาม ไปกับลีลาการเลี้ยงบอลและการจ่ายบอลแบบ “คิลเลอร์พาส” ของเขาที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมปิดสกอร์ได้แบบง่ายดายในช่วงเวลาที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในทีม แวร์เดอร์ เบรเมน เขาทำให้แฟนบอลเบรเมนแทบจะลืมตัวตนของ ดีเอโก้ รีบาส อดีตเพลย์เมกเกอร์ชาบราซิลของพวกเขาไปได้เลยและยิ่งช่วงเวลาที่เขาระเบิดฟอร์มในทีมชาติเยอรมันรุ่น U21 ในศึกฟุตบอลยูโร U21 ในปี 2009 ที่ซึ่งเขาช่วยให้เยอรมันชุดเล็กคว้าแชมป์ยุโรปได้นั้น มันทำให้แฟนบอลรู้สึกปลาบปลื้มกับการที่พวกเขากำลังจะมีมิดฟิลด์ตัวทำเกมรุกที่มีพรสวรรค์สูงก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจหลักในทีมชาติแล้วแต่ทว่า ในช่วงเวลาปัจจุบัน อดีตดาวรุ่งของวงการลูกหนังเยอรมันในช่วงนั้นที่มีแต่หลายทีมต้องการตัว ทำไมในเวลานี้เขาถึงกลายเป็น “ส่วนเกิน” ในทีมอาร์เซนอลไปได้ ?
เลยจุดพีคไปแล้ว
เมื่อช่วง 10 ปีที่แล้ว โอซิล กำลังอยู่ในช่วงพีคของตัวเองเลยก็ว่าได้ เขาระเบิดฟอร์มสุดเวิลด์คลาสในฟุตบอลโลก 2010 ได้อย่างยอดเยี่ยม และยังต่อยอดมาถึงการเป็นจอมทัพหมายเลข 10 ของทีม เรอัล มาดริด ที่ซึ่งคอยทำหน้าที่จ่ายบอลให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ร่วมงานกัน และเมื่อครั้งที่ โอซิล โดนขายออกจากทีมไปให้กับ อาร์เซนอล ในปี 2013 มันถึงกับทำให้ โรนัลโด้ หัวเสียเลยทีเดียวแต่ทว่าหลังจากที่ผ่านฟุตบอลโลก 2014 ที่เขาช่วยให้เยอรมันคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ มันก็ไม่น่าเชื่อว่า โอซิล จะฟอร์มตกลงไปอย่างมาก เขาเริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้งมากขึ้น และเริ่มขาดความมั่นใจในการเล่นไปพอสมควรสิ่งที่มันทำให้เขาเริ่มหมดก็คือ การโดนจับไปเล่นในตำแหน่งปีกที่ซึ่งนักเตะไม่มีสปีดแบบเขา เมื่อโดนจับไปเล่นทางกราบสนาม มันก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวไม่สามารถปล่อยของในตัวเองได้
ความอีโก้ของโอซิล
มิดฟิลด์ในยุคสมัยนี้ ถ้าหากว่าคิดที่จะเล่นแต่เกมรุกอย่างเดียวโดยไม่สนใจที่จะไล่บอล ลงมาช่วยเกมรับ ก็คงจะหมดสิทธิ์แจ้งเกิด หรือถ้าหากไม่อยากเล่นเกมรับจริงๆ ก็ต้องยอมปรับบทบาทตัวเองไปเป็น “ปีก”แต่ทว่า โอซิล เป็นนักเตะที่ยึดมั่นกับบทบาท “หมายเลข 10” ที่เน้นการทำเกมรุกเพรียวๆเท่านั้นเขาไม่ไล่บอล เขาไม่ชอบการปะทะหรือแย่งบอล เขาคือนักเตะที่วิ่งน้อย อีกทั้งยังเล่นได้แค่บทบาทของมิดฟิลด์ตัวรุกหลังศูนย์หน้าเท่านั้นเมื่อเขาไม่ยอมปรับตัวเองให้เข้ากับบทบาทปีก มันก็ย่อมทำให้ผู้จัดการทีม จนปัญญาที่จะทำให้โอซิลเค้นความสามารถของตัวเองออกมาได้ และเลือกไปใช้นักเตะที่สามารถลงเล่นในตำแหน่งที่พวกเขาต้องการ น่าจะดีกว่า
การเล่นฟุตบอลที่มีมิติเดียว
ว่ากันว่าการทำให้โอซิลหมดฤทธิ์ในสนามนั้นไม่ยาก เพราะนักเตะหมายเลข 10 โดยส่วนใหญ่นั้นนอกเหนือจากพลังในการเลี้ยงบอล การจ่ายบอลที่คมกริบ ที่เป็นอาวุธหลักของพวกเขาแล้วนั้น นักเตะหมายเลข 10 จะต้องมีการยิงประตูที่เฉียบขาดด้วยทั้งจังหวะโอเพ่นเพลย์และเซ็ตเพลย์แต่ว่าการยิงประตูนั้น กลับไม่ใช่จุดเด่นของเจ้าหนุ่มตาโปนรายนี้เลย เขามีดีอยู่ที่วิชั่นส์ และการแทงบอลทะลุช่องเท่านั้น แต่เมื่อหาจังหวะการยิงประตูด้วยตัวเองนั้น น้อยครั้งที่โอซิลจะวางเท้าเพื่อยิงเอง หรือเลี้ยงกระชากบอลเข้าไปยิงเองแค่ตามประกบนักเตะที่โอซิลจะจ่ายบอลให้ มันก็แทบจะทำให้โอซิลหมดพิษสงแล้ว หรือพยายามบีบให้โอซิลออกบอลยาก มันก็แทบจะทำให้เพลย์เมกเกอร์รายนี้หายไปจากเกมและเรายังสามารถสรุปได้ชัดๆเลยว่า ตราบเท่าที่โอซิลยังไม่ยอมลดอีโก้ของตัวเองที่อยากเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 เท่านั้น มันก็คงยากที่จะทำให้เขาโลดแล่นในเวทีระดับโลกต่อไป
