แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เริ่มต้นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ด้วยชัยชนะ 5-0 เหนือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ทิ้งนักเตะชื่อดังหลายรายไว้บนม้านั่ง แต่ในขณะที่เปิดเผยด้วยตัวเองในภายหลังว่า บางทีนั่นอาจเป็นความลับในความสำเร็จของตัวเอง
มันเป็นประตูแรกที่สรุปแล้วว่า ริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย เปิดบอลทะลุกลางสนามไปริมเส้นฝั่งขวาให้กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คขาวชาวอังกฤษ เติมขึ้นมาสุดเส้นหลังก่อนเปิดหักกลับไปให้กับ กาเบรียล เฆซูส ดาวยิงแซมบ้า ซัดขึ้นให้ แมนฯซิตี้ นำ เวสต์แฮม 1-0
ในเกมดังกล่าว มาห์เรซ โดดเด่นเป็นอย่างมากโดยมีส่วนร่วมกับทั้ง 5 ประตูของ แมนฯซิตี้ และอดีตกองกลาง เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัวเลือกที่น่าประหลาดใจก่อนหน้า เบอร์นาร์โด ซิลวา จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ขณะที่ วอลด์คเกอรู้ รู้ดีว่าการเซ็นสัญญาใหม่กับ เจา คันเซโล นั้น จะเข้ามากดดันเขาโดยตรง ส่วน เฆซุส ก็มี เซอร์จิโอ อเกวโร หัวหอกอาร์เจนไตน์ รอเสียบอยู่ตลอดเวลา
นั่นคือคุณภาพเชิงลึกที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีไว้ครอบครอง มันเป็นความรู้สึกที่นำไปสู่ข้อเสนอแนะที่ไม่เหมาะสมของ โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกส ว่ามี 4 ทีมที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกนี้ ประกอบด้วย แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ แมนฯซิตี้ ทีม B
นักเตะ 11 คนแรกของ แมนฯซิตี้ และทีม B ของพวกเขานั้น กวาร์ดิโอลา รู้ถึงสิ่งนี้เป็นอย่างดี การใช้ทีมนี้ของเขาอาจเป็นการเปิดเผยความลับในการสานต่อความสำเร็จของเขาเช่นกัน โดยอดีตโค้ช บาร์เซโลน่า ไม่ลังเลที่จะจัดนักเตะลงสนาม
มานูเอล เปเยกรีนี่ กุนซือ เวสต์แฮม ใช้บันทึกโปรแกรมของเขาก่อนเกมที่สนามกีฬาลอนดอน เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อชี้ให้เห็นว่า “ขุนค้อน” มีผู้เล่นสองคนที่มีคุณภาพสำหรับแต่ละตำแหน่ง แต่เมื่อ กวาร์ดิโอลา พูดลึกลงไปกับผลงานในสนามด้วยชัยชนะ 5-0 นั่นคือคุณภาพความลึกของทีมที่แท้จริง
ถามว่า มาห์เรซ สามารถปรับปรุงฟอร์มการเล่นในการเปิดตัวซีซั่นใหม่ให้กับสโมสรได้หรือไม่ กวาร์ดิโอลา ตอบว่า “ปัญหาเดียวที่เขามีในฤดูกาลที่ผ่านมา คือ ผมไม่ได้เลือกเขา เพราะเรามีผู้เล่นที่เก่งที่สุดคนหนึ่งเล่นในตำแหน่งเดียวกับเขา นั่นก็คือ เบอร์นาร์โด ซิลวา”
“บางครั้งพวกเขาจะต้องแข่งขัน ดังนั้น ตอนนี้ เบอร์นาร์โด ก็กำลังคิดว่า ว้าว ริยาด อยู่ในฟอร์มที่สุดยอด ดังนั้นเขาต้องก้าวไปข้างหน้านี่เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาความมั่นคงในทีมเอาไว้ให้ได้”
“กาเบรียล เฆซุส กลับมาด้วยความเร็ว และพลังงานอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น ตอนนี้ เซร์คิโอ กำลังคิดว่าเขาจะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ มันเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาระดับการเล่น นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ผู้เล่นทุกคนต้องรู้ว่า ในวันนี้คนอื่นถึงได้ลงสนาม”
“นอกจากนี้ เรายังมี อิลคาย กุนโดกัน ในแดนกลาง ซึ่งเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในช่วงสองเดือนสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา โดยที่เราไม่สามารถส่งเขาลงสนามในทุกเกมของพรีเมียร์ลีกได้ นิโคลัส โอตาเมนดี ก็ยอดเยี่ยม หลังจากการฝึกซ้อมสองครั้งและเล่นใน คอมมูนิตีชิลด์ มันเป็นผลงานที่เหลือเชื่อ แต่วันนี้เขาอยู่บนม้านั่งสำรอง”
“เรามี เบอร์นาร์โด เรามี เซร์คิโอ และ เฟอร์นันดิญโญ พักอยู่ที่บ้าน มันเป็นวิธีเดียวที่ผู้เล่นจะต้องเล่นด้วยความเคารพจากผู้เล่นคนอื่นๆ มันเป็นวิธีเดียวที่ผมรู้ในฐานะผู้จัดการทีม” นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” กล่าว
กวาร์ดิโอลา เป็นโค้ชแชมป์เปี้ยนที่คว้าแชมป์ลีก 7 สมัยก่อนหน้านี้ในอาชีพของเขา โดยเทรนเนอร์ชาวสเปน ชื่นชอบยุทธวิธีการปรับแต่งทีมของเขา และแน่นอนว่าเงินทุนอยู่ที่นั่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมเช่นกัน แต่ความเชื่อที่เขาแสดงออกมาในผู้เล่นของเขาทั้งหมดล้วนมีความสำคัญเช่นกัน
ลิเวอร์พูล ได้ส่งข้อความของตัวเองไปแล้วเมื่อชนะ นอริช 4-1 เมื่อคืนก่อน แต่การเดินทางไปเยือน เวสต์แฮม ของ แมนฯซิตี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น โดย “ขุนค้อน” เป็นทีมครึ่งบนของตารางที่มีความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาการเล่นของตัวเอง
กวาร์ดิโอลา กล่าวต่อว่า “ทุกคนในทีมต้องรู้ว่าผมเชื่อใจพวกเขา เมื่อผมบอกว่า ผมเชื่อใจพวกเขามันเป็นเรื่องจริง หลังจาก 4 ฤดูกาลไม่มีผู้เล่นคนหนึ่งที่ผมไม่ชอบที่อยู่กับเรา ผมเชื่อพวกเขาและพวกเขาต้องแข่งขันกัน พวกเขาต้องแข่งขันกับคู่ต่อสู้ ใช่ แต่พวกเขาต้องแข่งขันกันเองด้วยเช่นกัน”
นี่คือเหตุผลที่การสูญเสียของ แวงซองต์ กอมปานี กองหลังชาวเบลเยียม ของ แมนฯซิตี้ อาจไม่ได้พิสูจน์ว่ามีความสำคัญเท่าที่บางคนคาดการณ์ไว้ อดีตกัปตัน “เรือใบสีฟ้า” ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเพียง 13 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ประเด็นที่แท้จริงคือ ไม่มีใครขาดไม่ได้ นี่คือสาเหตุที่ “เรือใบสีฟ้า”สามารถรับมือกับปัญหาการบาดเจ็บของ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่ง ได้เช่นกัน ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง
เกมพรีเมียร์ลีก 15 เกมเมื่อปีก่อน ได้ผ่านไปแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่พ่ายแพ้ต่อ นิวคาสเซิล ในปลายเดือนมกราคม พวกเขาไม่ได้ดึงเกมใดเกมหนึ่งให้หายไป และพวกเขาไม่ได้ใช้นักเตะชุดเดิมตลอดสำหรับเกมเหล่านั้น การเลือกทีมของ กวาร์ดิโอลา นั้นมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะอยู่เสมอ
ตัวเลขที่ปรากฏจากการแข่งขันในตำแหน่งที่น่าสนใจนั้นขีดเส้นใต้ และเน้นความแตกต่างกับ ลิเวอร์พูล ในการแข่งขัน 35 นัดของทั้ง 38 นัด เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ได้ใช้ อลิสสัน เบ็คเกอร์, เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮัมเหมด ซาลาห์ ในทีม
ในความเป็นจริง เอแดร์สัน ผู้รักษาประตูของ แมนฯซิตี้ เป็นเพียงคนเดียวที่ได้ลงสนามครบทุกเกมในลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ขณะที่คนอื่นๆจะถูกหมุนเวียนกันไปตามปกติ ซึ่งอาจถูกกำหนดโดยความกังวลเรื่องสภาพร่างกาย หรือแม้แต่ความต้องการของเกมนั้นๆ แต่แรงจูงใจที่แท้จริงคือแรงจูงใจที่ดี ทำให้แน่ใจว่าทุกคนรู้ว่ามาตรฐานไม่ลื่นหลุดไป
อดีตโค้ช บาร์เซโลน่า กล่าวต่อว่า “หากพวกเขาต้องการที่จะเล่นในสัปดาห์หน้า พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องเล่นให้ดี นั่นเป็นวิธีที่เรารักษามาตรฐานของเรา หลังจาก 198 คะแนนในสองฤดูกาลที่ผ่านมา เราต้องการมัน เราต้องการแรงกด ดันนั้น เราก็มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลาย”
ยังไม่มีวี่แววของพวกเขาที่ยอมแพ้ ในขณะที่ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล นั้นค่อนข้างวุ่นวาย แต่ แมนฯซิตี้ ก็ถูกควบคุมในเลือกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทีมนี้ยังคงไร้รอยต่อ ใครก็ตามที่อยู่ข้างๆพวกเขาผู้เล่นเหล่านี้ยังคงทำงานในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้พวกเขาเกือบจะไม่สามารถหยุดชะงักได้ จะต้องมีการละเว้นมากกว่าหนึ่งหรือสองครั้งเพื่อทำให้เกิดปัญหา
อย่างที่มันเกิดขึ้นที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม นั่นคือเหตุผลที่ กวาร์ดิโอลา พูดถูกเมื่อเขาบอกว่าผู้เล่นของเขาแข่งขันกันมากเท่ากับที่พวกเขาแข่งขันกับคู่แข่ง นั่นเป็นความรู้สึกในวันเสาร์ วอล์คเกอร์, มาห์เรซ และ เฆซุส เหมือนรู้ว่าพวกเขาต้องทำผลงานให้น่าประทับใจ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่หยุดพัฒนา กวาร์ดิโอลา ทำแบบเดียวกันกับที่ บาร์เซโลน่า และเขาก็ทำเช่นเดียวกันที่ บาเยิร์น มิวนิค ในวันที่เขาเริ่มความพยายามที่จะทำในพรีเมียร์ลีก การเลือกทีมของเขาและความคิดเห็นของเขา หลังจากนั้น เราจะเห็นข้อมูลเชิงลึกในความลับของความสำเร็จของเขา
