ก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว นำฝูงเดี่ยว ๆ อย่างน่าภาคภูมิ

ก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว นำฝูงเดี่ยว ๆ อย่างน่าภาคภูมิ

จากผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เวลานี้ตารางคะแนนมีการเปลี่ยนแปลงจ่าฝูงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดันบุกไปพ่ายให้กับ เชลซี ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัธ ไปอย่างสบายเกือก 4-0 ทะยานขึ้นเป็นจ่ายฝูงแบบเดี่ยว ๆ ทันทีด้วยการมีแต้มมากกว่าแชมป์เก่า 1 แต้ม นับว่าสร้างความสะใจให้กับแฟนบอล “เดอะ คล็อปป์” อย่างมากที่ทีมรักของเขาเริ่มต้นซีซั่นได้ดีขนาดนี้

ผลการลองผิดลองถูกของ เดอะ คล็อปป์

ต้องบอกว่าระยะเวลา 3 ปี ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันอุตส่าห์ลองผิดลองถูกในการปรับทีมเรื่อยมา เริ่มส่งผลอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูล กำลังจะกลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษอีกครั้งหลังห่างหายจากการเป็นแชมป์ลีกมาเกือบ 30 ปี นับว่าเป็นช่วงเวลาอันแสนยาวนานมากทีเดียวในฐานะที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดอีกเลย พูดง่าย ๆ คือตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พวกเขายังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยสักครั้งด้วยซ้ำ ดังนั้นการก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของตารางคะแนนเวลานี้ มันจึงเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจในการทำทีมของบรรดาสต๊าฟฟ์โค้ชทุกคนรวมถึงแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจทีมรักอย่างเนืองแน่นในทุก ๆ เกม

ด้วยสไตล์การเล่นของ คล็อปป์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ชุดนี้ดูมีความแข็งแกร่ง เอาชนะได้ยาก ที่สำคัญยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ บางทีซีซั่นนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพวกเขาก็ได้กับการจารึกชื่อในฐานะของแชมป์พรีเมียร์ลีก คิดดูว่าในซีซั่นนี้พวกเขามีคุณสมบัติในการเป็นแชมป์หลายอย่าง เช่น โกงความตายในเกมที่เจอกับ เอฟเวอร์ตัน ควักสามแต้มได้เฉยทั้ง ๆ ที่เกมนัดนั้นยังไงก็ควรเสมอ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มันบ่งบอกได้ว่าทีมที่จะก้าวขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดต้องมีทั้งความเก่งและความเฮงผสมผสานกันอยู่ในตัวเองแบบที่ ลิเวอร์พูล มีในตอนนี้

การก้าวขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงอย่างน้อย ๆ 1 สัปดาห์ เหมือนเป็นการก้าวผ่านอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมายาวนานเหลือเกิน เป็นความรู้สึกที่เชื่อว่าแฟนบอลอยากให้ทำแบบนี้จนจบซีซั่น กระนั้นหนทางในการเดินทางยังอีกยาวไกล บางทีอาจต้องใช้ตัวช่วยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องแต่กับสิ่งที่พวกเขาทำในเวลานี้เริ่มมีบทพิสูจน์ออกมาชัดเจนเลยว่า การนำเป็นจ่าฝูงคือผลตอบแทนที่นักเตะและทีมงานทุกคนทำงานหนักมาโดยตลอดหลายปีนี้

ผลการลองผิดลองถูกของ เดอะ คล็อปป์