แผนใครบ้าง ! กุนซือบาร์ซ่ากับแผนเด็ดประจำตัว ใครพัง ใครพินาศ !

กุนซือบาร์ซ่ากับแผนเด็ด

บาร์เซโลนา คือทีมชั้นนำของลีกสเปนที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องการเล่นฟุตบอลเกมรุก โดยมีแผนการเล่นที่จัดได้ว่าเป็นแผนระดับ Standard ที่ใช้ปราบทีมยักษ์ใหญ่จนได้แชมป์มาแล้วนับไม่ถ้วน นั่นก็คือแผน 4-3-3 อันทรงประสิทธิภาพ …แผน 4-3-3 กล่าวกันว่า บาร์เซโลนา ได้รับอิทธิพลมาจาก อาแจ็กซ์ ยุคไร้เทียมทานในสมัยที่ โยฮัน ครัฟฟ์ ยังทรงอำนาจ แต่ว่ามันก็มีอยู่หลายช่วงที่ บาร์เซโลนา เปลี่ยนแปลงแผนการเล่นที่จัดได้ว่าเป็น Signature ของพวกเขา ว่าแต่ผู้จัดการทีมชื่อดังหลายๆคนนั้น ใช้แผนอะไรกันบ้างกับทีมนี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

สุดยอดกุนซือผู้นี้ เมื่อครั้งที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการของ บาร์เซโลนา เขาก็ยังคงยึดมั่นในการใช้แผน 4-3-3 ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสโมสร เพียงแต่ว่าสูตร 4-3-3 ของเป๊ปนั้น มีการลงรายละเอียดเข้าไปหลายอย่างจึงมีความลึกล้ำมากกว่าเดิม นั่นคือการทำให้กองกลาง 3 ตัวมีการต่อบอลสั้นที่เนียนตาขึ้น จับเอากองหน้าตัวกลางลงมาช่วยเชื่อมเกมด้วย และบางครั้งก็เน้นดันให้แบ็กขวา วิ่งเติมขึ้นมาเหมือนจะเป็นวิงแบ็กหรือกองกลางตัวที่ 4 หรือแทบจะเป็นกองหน้าริมเส้นตัวที่ 4 ด้วยนั่นเอง

โยฮัน ครัฟฟ์

โยฮัน ครัฟฟ์

สุดยอดตำนานบรมกุนซือและตำนานนักเตะผู้ล่วงลับชาวดัตช์ เจ้าตัวเคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาตั้งแต่ในช่วงปลายยุค 80 และแน่นอนว่าสิ่งที่ ครัฟฟ์ นำมาใช้กับบาร์เซโลนาก็คือ แผนการเล่นไร้เทียมทาน 3-4-3มันอาจจะน่าตงิดใจว่าแผน 3-4-3 ค่อนข้างจะแตกต่างจาก 4-3-3 ที่เป็นซิกเนเจอร์ของบาร์เซโลนาเลย แล้วเขาทำทีมให้เล่นระบบแบบนี้อย่างไร ?ครัฟฟ์ ใช้กองหลังเป็นตัวเซ็นเตอร์แบ็ก 3 ตัว (มิเกล อังเคล นาดาล , โรนัลด์ คูมัน และ โฆเซ่ รามอน อเล็กซ์ซานโก้) และวางกองกลางตัวรับไว้ด้านหน้า 2 รายด้วยกัน (เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นตัวยืน ส่วนอีกรายจะหมุนเวียนกันลง) และยังมีมิดฟิลด์ตัวทำเกมซ้าย-ขวา 2 ราย (ไมเคิล เลาดรู๊ป และ โฆเซ่ มารี บาเกโร่) คอยปั้นบอลให้กับ 3 กองหน้าคอยกระซวกประตู (ซิกิเบกิริสไตน์ , ฆูลิโอ ซาลีนาส และ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ)และแผน 3-4-3 ของครัฟฟ์ มันก็ส่งผลให้พวกเขากวาดทุกแชมป์บนแผ่นดินสเปน รวมถึงได้แชมป์ยุโรปมาครองด้วย 1 สมัย

โรนัลด์ คูมัน

โรนัลด์ คูมัน

มันคงจะเป็นช่วงวิกฤติของบาร์เซโลนาจริงๆ และน่าอนาถใจที่พวกเขาไปเรียกตัวกุนซือที่มีผลงานในระดับสโมสรเข้าขั้นบรมห่วยแย่อย่าง คูมันเข้ามาทำทีม
คูมัน เน้นการทำทีมด้วยระบบ 4-2-3-1 ซึ่งเป็นแผนที่เน้นกองกลางเยอะๆไว้ก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่บาร์เซโลนาไม่เคยคุ้นเคย แล้วก็ตามสเตป พวกเขาร่วงไปอยู่อันดับที่ 13 ในตารางแล้วในปัจจุบัน

แฟรงค์ ไรจ์การ์ด

แฟรงค์ ไรจ์การ์ด

ในยุคที่ บาร์เซโลนา ตื่นจากการเป็นยักษ์หลับขึ้นมาและได้แชมป์สารพัดในยุคที่ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ตำนานมิดฟิลด์ชาวดัตช์ของเอซีมิลาน ที่ได้ก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาภายใต้คำแนะนำของ โยฮัน ครัฟฟ์ เขาก็ได้นำแผนการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของบาร์เซโลนาตั้งแต่ครั้งอดีตมาใช้ นั่นก็คือ 4-3-3
ไรจ์การ์ดนั้น ชินกับระบบดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยที่เจ้าตัวเล่นให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ แลรวมถึงกับอาแจ็กซ์ด้วย ซึ่งเขาก็สามารถทำทีมบาร์เซโลนาให้เน้นระบบต่อบอลสั้น เน้นทีมเวิร์ค ซึ่งแผน 4-3-3 ของเขามีตัวชูโรงอยู่ที่ “โรนัลดินโญ่” ซึ่งลงประจำการทางพื้นที่กองหน้าฝั่งซ้าย มีตัวหน้าเป้าเป็น ซามูเอล เอโต้ และฝั่งขวานั้นในช่วงแรกจะเป็น ลูโดวิช ชูลี่ ก่อนที่จะกลายมาเป็น “ลิโอเนล เมสซี่ “ในภายหลัง

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

แม้ว่าจะมีแชมป์ลาลีกา 2 สมัยมาประดับโปรไฟล์ แต่แผนการเล่นของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ก็เป็นตัวทำลายวัฒนธรรมของบาร์ซ่ามาจนถีงบัดนี้ แม้ว่าปัจจุบันเขาจะโดนไล่ออกไปนานแล้วก็ตามบัลเบร์เด้ ทำทีมด้วยระบบ 4-4-2 และเน้นการตั้งรับ หวังผลไว้ก่อน รอสวนกลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะบาร์เซโลนาไม่เคยคุ้นกับแผนการเล่นที่ไร้ความกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ มันเลยทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล รวมถึงจากตำนานนักเตะหลายๆคนอีกด้วย