อูไน เอเมอรี่ กับปัญหากองโตในทัพ “ไอ้ปืนใหญ่”

อูไน เอเมอรี่ กับปัญหากองโต

การจัดการกับความตึงเครียดเกิดขึ้นระหว่างเกมที่ อาร์เซน่อล เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีแฟน “ไอ้ปืนใหญ่” กำกับความโกรธกับปฏิกิริยาที่ กรานิต ชาก้า กองกลางชาวสวิตเซอร์แลนด์ แสดงออกเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวและเรียกร้องให้ เมซุต โอซิล จอมทัพชาวเยอรัมน กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง นั่นคือปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับ อูไน เอเมอรี่ โค้ชชาวสเปน

ในเดือนสิงหาคมของปีที่แล้วไม่กี่วันก่อนที่ เอเมอรี่ จะคุมทีม อาร์เซน่อล ลงเล่นเป็นเกมแรก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน นั้น เขาสรุปวิสัยทัศน์ของตัวเองกับ “เดอะ กันเนอร์ส” ไว้อย่างน่าสนใจ

เอเมอรี่ กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “สไตล์ของเราคือการเล่นกับลูกบอลจะเป็นสิ่งสำคัญ เราจะทำสิ่งต่างๆ ด้วยการผสมผสานเพื่อควบคุมผลการแข่งขันโดยการวางตำแหน่งของลูกบอล แล้วเมื่อเรามีพื้นที่ว่างเราจะบุกทันที สิ่งแรกคือการจัดระเบียบและชิงลูกบอลกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว”

เอเมอรี่ พา อาร์เซน่อล แพ้ในเกมแรกที่เขาคุมทีม ต่อ แมนฯซิตี้ แต่ความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นและความมุ่งมั่นของ “ไอ้ปืนใหญ่” ในการตั้งเกมจากแนวรับนั้น อย่างน้อยแสดงให้หลักฐานถึงความคิดที่เขาตั้งใจจะให้ลูกทีมเล่น

หลังจากหลายปีที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตโค้ชชาวฝรั่งเศส ในที่สุดมันก็รู้สึกราวกับว่า อาร์เซน่อล มีแผนสำหรับจุดเริ่มต้นของวิธีการที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้พวกเขาพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วถึงจนถึงตอนนี้ และมันเป็นเรื่องยากมากขึ้นกว่าที่เคยถอดรหัสสิ่งที่ เอเมอรี่ ต้องการจากทีมนี้

การเสมอกับ คริสตัล พาเลซ เป็นตัวกำหนดปัญหา อาร์เซน่อล เริ่มต้นอย่างสวยงามด้วยการนำไปก่อน 2-0 แต่เกมที่ง่ายกลับกลายเป็นความวุ่นวาย พวกเขาขาดความนิ่งในการรักษาผลสกอร์ และเริ่มสับสนในแนวรับ จึงทำให้ “ดิ อีเกิ้ลส์” ตีเสมอ 2-2 ในท้ายที่สุด

แผนการเริ่มต้นของ เอเมอรี่ ในการยกเครื่องเอกลักษณ์ของ อาร์เซน่อล ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะถูกทำลายไปแล้ว ทีมของเขามีแนวโน้มที่จะผลงานแย่ลงอย่างหนักราวกับว่ากำลังกดดันจากอะไรบางอย่าง และการไร้ความสามารถในการควบคุมเกมนั้น มันทำให้ปริมาณและคุณภาพในเกมของพวกเขาลดลง

อาร์เซน่อล ยังคงขึ้นเกมจากด้านหลัง แต่พวกเขาไม่ได้ทำมันอย่างสม่ำเสมอและพวกเขาก็ไม่ได้ทำมันได้ดีเช่นกัน ทีมของ เอเมอรี่ สูญเสียการครอบครองบอลในพื้นที่แนวรับไป 13 ครั้ง ในเกมที่บุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล 3-1 ที่สนามแอนฟิลด์ และอีก 12 ครั้ง ในเกมที่เสมอกับ วัตฟอร์ด 2-2 เมื่อเดือนที่แล้ว

การเปลี่ยนสไตล์ของทีมนั้น ทำให้เกิดความสับสน ตอนนี้ เอเมอรี่ บอกกล่าว ถึงแนวทางที่ปรารถนาของ อาร์เซน่อล ซึ่งจะกำหนดจังหวะตัวเองในเกม แต่กลับถูกแทนที่ด้วยการพูดถึงการปรับแต่งวิธีการเล่นแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

อดีตนายใหญ่ บาเลนเซีย ระบุเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า “เราพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในการเผชิญหน้ากับคู่แข่งในแต่ละเกมเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมผลลัพธ์ โดยคำนึงถึงผู้เล่นของเรา ระบบของเรา และความคิดในแนวทางการเล่นของเรา”

ความตั้งใจของ เอเมอรี่ คือการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามของ อาร์เซน่อล เพื่อลบล้างจุดแข็งของพวกเขาและใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของพวกเขาไปพร้อมๆกัน แต่กลับกลายเป็นว่าผู้เล่นของเขาสับสน และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นด้วยความเสียหาย

อาร์เซน่อล ได้แสดงการคุกคามด้วยการโต้กลับเร็วกับคู่แข่งในบรรดาทีมท็อปซิกส์ โดยโดดเด่นที่สุดในเกมกับ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แต่มันน่าสงสัยอยู่ว่า เมื่อสถานการณ์ต้องการสิ่งที่แตกต่าง มักจะเกิดอะไรขึ้นในระยะสั้น

นิค ไรท์ กูรูฟุตบอลของ “สกายสปอร์ต” กล่าวว่า “นักเตะ อาร์เซน่อล ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากแนวทางของ เอเมอรี่ เขาพูดเกี่ยวกับการส่งพลังงานความหลงใหล และความมุ่งมั่นที่จะชนะในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมันทำให้แฟนๆภูมิใจ และสร้างความหวังและความตื่นเต้นในเอมิเรตส์ แต่ก็มีหลักฐานเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

“ในความเป็นจริงมันมักจะรู้สึกราวกับว่า อาร์เซน่อล เล่นแบบไม่ต้องการชนะและเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ เขาต้องหาผู้นำที่มั่นคงในทีม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ อาร์เซน่อล สูญเสียแรงผลักดันในเกม และมันก็เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมของ เอเมอรี่ ชนะเพียงแต่ 4 เกม ทั้งที่มีโอกาสได้บุกคู่แข่งมากมาย”

เอเมอรี่ สามารถดึง ชาก้า ออกจากความวุ่นวายได้

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ ชาก้า และ โอซิล ที่มันแสดงให้เห็นว่าวิธีการบริการคนของ เอเมอรี่ นั้น สับสนและสรุปได้ดีที่สุดจากสถานการณ์ของ ชาก้า ที่แสดงอาการตอบโต้อย่างโกรธเกรี้ยวต่อแฟนบอลทีมตัวเอง เมื่อเขาถูกโห่ไล่ในเกมกับ พาเลซ

ชาก้า ซึ่งเป็นบุคคลที่สร้างความแตกแยกอย่างลึกล้ำในหมู่แฟนบอล อาร์เซน่อล โดยดาวเตะสวิตเซอร์แลนด์ ต้องเผชิญกับงานที่ยากกว่าเดิมในการเอาชนะใจสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” หลังเขาแสดงท่าทีไม่เหมาะสมออกมาระว่างถูกเปลี่ยนตัว

เอเมอรี่ สามารถดึง ชาก้า ออกจากความวุ่นวายได้ เขาสามารถมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับนักเตะคนอื่นได้เช่นกัน หรืออย่างน้อยที่สุด เขาสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้ได้ แม้กำลังจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ก็ตาม

สิ่งที่ เอเมอรี่ ทำกับ ชาก้า ในตอนนี้ คือการเดาของทุกคน และสามารถพูดได้เหมือนกันกับกรณีของ โอซิล โดยแฟนๆ อาร์เซน่อล กำลังร้องเพลงเรียกชื่อของเขาในเกมกับ พาเลซ แต่เวลานี้ กองกลางเยอรมัน ยังคงถูกดร็อปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน

เอเมอรี่ ยืนยันว่าการปฏิบัติของเขาที่มีต่อ โอซิล นั้น ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายใน อาร์เซน่อล ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ใช่เพียงคนเดียวในสโมสรที่ต้องการให้อดีตดาวเตะ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน เดินออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เอเมอรี่ รู้สึกว่า โอซิล ไม่ได้ทุ่มเทในการซ้อมเหมือนกับคนอื่นๆ ซึ่งทำให้เขาต้องตกเป็นตัวสำรอง แม้ว่าเขาจะพูดถูก แต่การขาดความคิดสร้างสรรค์ในทีมของเขาทำให้มันยากขึ้นสำหรับแฟนๆที่จะเข้าใจได้ อาร์เซน่อล ทำประตูแบบโอเพ่น เพลย์ น้อยกว่า นอริช ซิตี้ และ เบิร์นลี่ย์ ในฤดูกาลนี้ แต่ทางออกที่ชัดเจนที่สุดสำหรับปัญหานี้ไม่ถือเป็นตัวเลือก

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างทีมเยาวชนเป็นข้อดีอย่างหนึ่งในยุคของ เอเมอรี่ โดยโค้ชชาวสเปน มีความตั้งใจที่จะให้โอกาสนักเตะอายุน้อย อาทิ มัตเตโอ เก็นดูซี่ กองกลางชาวฝรั่งเศส ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักหลังย้ายมาจาก ลอริยองต์ เมื่อปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันบรรดาผู้เล่นดาวรุ่งคนอื่นๆอย่าง โจ วิลล็อค, บูกาโย่ ซาก้า, กาเบีรยล มาติเนลลี่ และ รีส เนลสัน ต่างก็ได้รับโอกาสจาก เอเมอรี่ เช่นเดียวกัน

อีกครั้งแม้ว่า จะมีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับวิธีการของ เอเมรี่ ที่ได้เปลี่ยนตัวสำรองในช่วงพักครึ่งแรกไปถึง 5 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งเป็นการให้โอกาสเด็กปั้นของสโมสรได้ลงสนาม อาทิ ในเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ วิคตอเรีย กิมาไรซ์

ซาก้า เป็นดาวรุ่งที่ฝีเท้ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานที่น่าประทับเมื่อเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่เขาจะถูกจับมายืนตรงกลางมากขึ้นในเกมที่ อาร์เซน่อล บุกไปพ่าย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0

นอกจากนี้ หลายคนสงสัยว่า ลูคัส ตอร์เรร่า ห้องเครื่องทีมชาติอุรุกกวัย หายไปไหน โดยดาวเตะ “จอมโหด” ย้ายจาก ซามพ์โดเรีย ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี มาเล่นกับ อาร์เซน่อล เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกลางตัวรับฝีเท้าอันดับต้นๆของโลก

ฟอร์มของ ตอร์เรร่า ที่สะดุดตาจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในรัสเซีย ยกระดับโปรไฟล์ของเขาอย่างมาก และฟอร์มในเกมแรกของเขากับ อาร์เซน่อล นั้น หลายคนบอกว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญในทีมของ เอเมอรี่ ซึ่งสไตล์การเล่นของเขาเป็นสิ่งที่ “เดอะ กันเนอร์ส” ขาดหายไปนาน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ตอร์เรร่า ดูเหมือนจะไม่ได้รับความนิยมจาก เอเมอรี่ มากนัก เขาเพิ่งได้เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก ไปเพียง 2 จาก 10 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งเกมสุดล่าสุดของเขาจบลงด้วยการถูกเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 55 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

สำหรับสไตล์การเล่นและศักยภาพทั้งหมดของ ตอร์เรร่า นั้น ดูเหมือนว่า เอเมอรี่ ไม่ได้มองเขาเป็นกองกลางตัวรับอีกต่อไปแล้ว โดยนายใหญ่ชาวสเปน ระบุว่า “เขาฉลาดมากเมื่อเล่นในพื้นที่รอบกรอบเขตโทษคู่แข่ง และเขาจะได้ทำหน้าที่นั้นในโอกาสต่อไป”

ดูเหมือนว่า เอเมอรี่ จะเห็นบางสิ่งที่แตกต่างในตัว ตอร์เรร่า แต่แฟนๆมีสิทธิ์สงสัยว่า ทำไมนักเตะที่ยิงประตูได้เพียง 3 ลูก จากการลงสนาม 72 เกมหลังสุด ถูกมองว่าเป็นผู้เล่นในตำแหน่งตัวรุก

ถ้า ชาก้า กำลังจะเสียตำแหน่งในทีม และมันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทางกลับสู่ทีมสำหรับเขาในตอนนี้ บางทีอาจเป็นเส้นทางที่จะเปิดให้ ตอร์เรร่า กลับสู่ตำแหน่งตามธรรมชาติของเขา แม้ว่ามันจะไม่ค่อยง่ายที่ เอเมอรี่ จะคิดแบบนั้นก็ตาม

ในเวลานี้ ความมั่นใจเพียงอย่างเดียวคือ เอเมอรี่ ต้องการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาในทีม อาร์เซน่อล อย่างเร็วที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

ความมั่นใจเพียงอย่างเดียวคือ เอเมอรี่