ปัญหาที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเผชิญเมื่อ แฮร์รี่ เคน เจ็บ

สำหรับ มูรินโญ่ นั้น มันเป็นปัญหาที่เขาต้องเผชิญ

เกมแรกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจาก แฮร์รี่ เคน หัวหอกคนสำคัญของทีมได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายต้องพลาดการลงสนามนั้น จบลงด้วยการไม่พบกับชัยชนะ หลังทำได้แค่บุกไปเสมอกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่สนามริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม 1-1- ในรอบที่ 3 ของการแข่งขันศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคมที่ผ่าน

อาการบาดเจ็บของ เคน นั้น มีแนวโน้มที่จะพิสูจน์ปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกสของ “ไก่เดือยทอง” มากกว่าที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ ของ สเปอร์ส เคยเผชิญ

มูรินโญ่ กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับทีมที่จะเล่นโดยไม่มี แฮร์รี่ เคน ยืนเป็นกองหน้า ในเกมกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ เราพยายามใช้ความคล่องตัวของ ลูคัส มูร่า และ ซอง ฮึง มิน เป็นหลักในเกมรุก แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

“พวกเขาพยายามในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลง มูร่า และ ซอง ให้เป็นกองหน้าหมายเลข 9 เหมือนอย่างที่ เคน ทำได้หรอก ดังนั้นเราต้องลองสิ่งอื่น ๆ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังจะทำ” อดีตเทรนเนอร์ อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด กล่าว

ขณะเดียวกัน มูรินโญ่ พูดถึงวิธีการในตอนท้ายของเกมกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่ สเปอร์ส กำลังเล่นด้วยแนวรุก 6 คน แต่ไม่มีกองหน้าตัวเป้า โดยโค้ชเลือดฝอยทองอธิบายว่าทำไมเรื่องนี้เป็นปัญหา “เราไม่มีเป้าหมายในแดนหน้าที่จะอยู่ในตำแหน่งที่เราสามารถจัดระเบียบเกมรุกของเราได้เลยในจุดนั้น”

แน่นอนว่า การวิเคราะห์สถานการณ์ของ มูรินโญ่ นั้นถูกต้อง แต่มันก็เป็นอุปสรรคต่อเขามากกว่าที่คิดเอาไว้ เพราะในขณะที่เปลี่ยนโค้ชแล้ว แต่ สเปอร์ส ก็ยังคงเล่นในรูปแบบเดิม และบ่อยครั้งที่พลพลรรค “ไก่เดือยทอง” จะใช้บอลยาว แต่กองหลัง มิดเดิ้ลสโบรช์ ก็ตัดบอลได้บ่อยครั้ง

นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องความกระหายในสนามที่เรื้อรังมาอย่างยาวนานของนักเตะ สเปอร์ส นั้น ก็ดูว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขในยุคของ มูรินโญ่ ซึ่งเห็นได้ชัดจากเกมที่พวกเขาบุกไปพ่าย เซาแธมป์ตัน ที่สนามเซนต์ แมรีส์ 1-0 เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

แยน แฟร์ต็องเก้น กองหลังทีมชาติเบลเยียมของ สเปอร์ส กล่าวหลังจบเกมกับ เซาแธมป์ตัน ว่า “ในช่วงครึ่งแรกเราต้องเล่นกับบอลให้มากขึ้น มันมีโอกาสที่เราจะทำแบบนั้น แต่เราใช้ลูกบอลยาวมากจนเกินไป”

ในเกมกับ เซาแธมป์ตัน นั้น แฟร์ต็องเก้น โยนบอลยาวถึง 19 ครั้ง ซึ่งมันมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆในสนาม และการเล่นลักษณะนี้ อาจเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับแฟนบอล สเปอร์ส แต่การประเมินยังคงแม่นยำ เพราะสถิติแสดงให้เห็นว่าจำนวนบอลยาวที่ สเปอร์ส เล่นนั้น แม่นยำขึ้นตั้งแต่ มูรินโญ่ มาคุมทีม

อย่างไรก็ตาม บางครั้งการเล่นบอลยาวของ สเปอร์ส มันได้ผล โดยสถิติการเล่นบอลยาน้อยที่สุดในฤดูกาลนี้ผลคือ การพ่ายแพ้ในบ้านให้กับ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งอาจเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ของพวกเขา และสถิติการใช้บอลยาวมากที่สุดก็คือในเกมที่เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-0 ซึ่งเป็นสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดของ “ไก่เดือยทอง” ในปีนี้

นี่ไม่เกี่ยวกับถูกหรือผิด เพราะมันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ และผลที่ตามมาข้อมูลขั้นสูงที่รวบรวมโดย Opta เปิดเผยว่านี่ไม่ใช่แค่ลูกบอลยาว มันเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มโดยรวมนับตั้งแต่การเข้ามาทำงานของโค้ชชาวโปรตุเกสในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ในยุคของ มูรินโญ่ นั้น ท็อตแน่ม มีสถิติมักผ่านบอลให้กันในทีมน้อยกว่า 10 ครั้ง เพราะมันเป็นผลมาจากการโจมตีระยะไกล ซึ่งพวกเขามองไปที่การโยนบอลยาวไปให้ เคน เป็นตัวพักบอลก่อนแล้วสร้างสรรค์เกมขึ้นมาจากตรงนั้น

ทำไม สเปอร์ส ถึงฟอร์มตกเมื่อ เคน ไม่อยู่ในทีม

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม สเปอร์ส ถึงฟอร์มตกเมื่อ เคน ไม่อยู่ในทีม โดยกัปตันทีมชาติอังกฤษ มีหลายแง่มุมในเกมของเขา และมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ที่แตกต่าง รวมถึงสามารถกดดันแนวรับ หรือวิ่งหาช่องก็ได้

มูรินโญ่ ชอบให้กองหน้าของเขายืนเป็นตัวเป้าคอยพักบอลเพื่อให้แนวรุกคนอื่นๆจากแดนกลางได้ขึ้นมาหาโอกาสจบสกอร์ แนวคิดก็คือ เคน เป็นตัวเป้า และ เดเล่ อัลลี่ กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ จะเป็นตัวสนับสนุนในแนวรุก

ในขณะที่โค้ชคนอื่นๆในพรีเมียร์ลีก มองหาคุณสมบัติที่แตกต่างในกองหน้าตัวกลางของพวกเขา แต่ มูรินโญ่ ชื่นชอบคนที่สามารถยืนค้ำกับกองหลังคู่แข่งได้ โดยอดีตกุนซือ เชลซี เคยประสบความสำเร็จกับบรรดาศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ดิเอโก คอสต้า, สลาตัน อับราฮิโมวิช และ โรเมลู ลูกากู

ย้อนกลับไปในช่วงที่ มูรินโญ่ คุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเซ็นสัญญากับ ลูกากู เมื่อปี 2016 เขากล่าวว่า “ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นกองหน้า ดังนั้นเราจึงไม่ได้พูดถึงผู้เล่นอเนกประสงค์ หรือจะสร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับตำแหน่งในสนาม เขาเป็นกองหน้า และมีหน้าที่ยิงประตูแค่นั้น”

“สำหรับการเล่นในพรีเมียร์ลีก เราต้องการคนเป้าหมายในแดนหน้า ซึ่งไม่ใช่ นักเตะอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ลูกากู เป็นกองหน้าหมายเลข 9 ที่เล่นได้ดีในกรอบเขตโทษคู่แข่ง และเขาจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเรา” อดีตนายใหญ่ “ปีศาจแดง” กล่าว

ความคิดที่ว่า แรชฟอร์ด ไม่สามารถทำหน้าที่เดียวกันกับ ลูกากู นั้น ถูกปลูกฝังไว้ในหัวของ มูรินโญ่ มานานแล้ว และแม้กระทั่งช่วงที่เขาโดนไล่ออกจากทัพ “ปีศาจแดง” เขาก็ยังแสดงความคิดเห็นในฐานะกูรูว่า แรชฟอร์ด ไม่เหมาะกับการเป็นกองหน้าตัวเป้า

มูรินโญ่ กล่าวว่า “แรชฟอร์ด ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า เขาเป็นคนที่ชอบเคลื่อนที่ ผมไม่คิดว่าเขาเป็นผู้เล่นเบอร์ 9 โดยธรรมชาติ เขาอาจเป็นผู้เล่นที่ดีมากในตำแหน่งที่เหมาะสม และหากเขาเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า ผมคิดว่าเขาไม่สามารถยิงได้ 30 ประตูต่อฤดูกาล ผมไม่คิดว่าเขาจะพัฒนาขึ้นได้ในตำแหน่งตัวเป้า เพราะมันเป็นตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับเขา”

อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ยากสำหรับ ซอง และ มูร่า ด้วยหรือไม่ ถ้าพวกเขาถูกขอให้ทำหน้าที่แทน เคน เพราะ เคน สามารถปรับตัวได้ทุกบทบาทสำหรับแนวทางการเล่นของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นลูกกลางอากาศที่โดดเด่น และการใช้ร่างกายดวลกับกองหลังคู่แข่ง

ท็อตแน่ม สามารถเล่นในลักษณะโดยที่ไม่มี เคน ได้หรือไม่? มูรินโญ่ ต้องหาทางออกแม้ว่ามันจะขัดกับสัญชาตญาณของเขาเกี่ยวกับวิธีการสร้างทีมก็ตาม และอาจสงสัยว่าเขาจะมีความสุขมากขึ้นหรือไม่ถ้า เฟอร์นันโด ยอเรนเต้ อดีตกองหน้าชาวสเปน ยังอยู่ในทีม

แต่ทางออกเดียวที่ โค้ชชาวโปรตุเกส นำมาใช้คือการวางกองกลางตัวรุกอีกตัวลงในสนาม เพราะความแข็งแกร่งของ ท็อตแน่ม ในพื้นที่แดนกลางสนามนั้น อาจจะนำมาซึ่งความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้น แต่สำหรับ มูรินโญ่ นั้น มันเป็นปัญหาที่เขาต้องเผชิญ

ปัญหาที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเผชิญเมื่อ แฮร์รี่ เคน เจ็บ