ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประสบความพ่ายแพ้ครั้งแรกของฤดูกาลจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังบุกไปพ่าย นาโปลี 2-0 แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับฟอร์มของลูกทีม
คล็อปป์ บอกกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง และการแสวงหาความมั่นคงในการรักษาฟอร์มการเล่น และอธิบายว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงต้องการทำความคุ้นเคยกับฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง
แสงแดดอ่อนๆในแถบเมอร์ซีย์ไซด์ แบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่กระตุ้นความกล้าหาญเหนือประตูทางเข้าอาคารฝึกซ้อม เมลวู้ด ของ ลิเวอร์พูล นักเตะของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่สักพักหนึ่ง เนื่องจากมีภารกิจต้องเดินทางไปเล่นกับ นาโปลี ที่ประเทศอิตาลี
อย่างไรก็ตาม หลังจมเกมด้วยความพ่ายแพ้ในเนเปิ้ลส์ คล็อปป์ กำลังครุ่นคิดว่า สามารถทำอะไรได้บ้างกับป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่การมองเห็นบนผืนผ้าใบขนาด 12 ฟุต ซึ่งมีคำพูดสร้างแรงบันดาลใจของ บิล แชงค์ลี่ย์ ตำนานกุนซือ ลิเวอร์พูล
คล็อปป์ ซาบซึ้งในความรู้สึกจากภาพถ่ายของ แชงค์ลี่ย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในของหลายๆอย่างที่มีค่าในสำนักงานของเขา แต่ไม่มีการพิจารณาตัวเองจากแชมป์ยุโรปซีซั่นที่ผ่านมา หลังจากการป้องกันแชมป์ของพวกเขาเริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ และมันไม่ควรจะเกิดขึ้น
ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ใน ซาน เปาโล เมื่อปีที่แล้วเช่นเดียวกัน แต่อารมณ์แตกต่างจากการฟอร์มการเล่นในนัดนี้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ 2 ตัวรุก “หงส์แดง” โชว์ฟอร์มได้ไม่เหมือนเดิม เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังชาวดัตช์ ประมาทอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และการถูกลงโทษในสายในสายตาของ คล็อปป์ ผิดพลาดอย่างชัดเจน
คล็อปป์ รู้สึกไม่พอใจในเกมที่ ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะแพ้ แต่ก่อนที่จะเดินทางไปเยือน เชลซี เขาพยายามที่จะรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่สมบูรณ์แบบ โดยเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังคงสะท้อนคุณสมบัติที่เขาเชื่อมั่นต่อลูกทีม อีกความท้าทายจากการแข่งขันทั้งใน และต่างประเทศสำหรับรางวัลใหญ่ที่สุด
อดีตโค้ช โบรุสเซีย ดอร์ทมุรด์ กล่าวว่า “มันรู้สึกยาวนานมากตั้งแต่จบเกมกับ นาโปลี แต่ผมยิ่งมีความสุขกับการฟอร์มการเล่นของเรามากขึ้น เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราแพ้ 3 เกม ในรอบกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่มันไม่เหมือกัลเกมวันอังคารที่ผ่านมาในหลายๆอย่าง”
“เราควบคุมเกมได้ตามที่เราต้องการ แต่ความเด็ดขาด และจังหวะสุดท้ายมันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะเหตุผลที่แตกต่างกัน เราตัดสินใจผิด เราอยู่ในจุดที่พวกเขาป้องกันได้ แต่โดยทั่วไปความเป็นผู้ใหญ่ที่เราเล่นในเกม มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา” คล็อปป์ กล่าว
ลิเวอร์พูล ได้พัฒนาไปหลายขั้นตอนภายใต้ความการนำของ คล็อปป์ ซึ่งกำลังคุมทีมเป็นปีที่ 4 และก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ถ้วยยุโรปสมัยที่ 6 เพื่อยุติการรอคอยถ้วยแชมป์มานานกว่า 7 ปี โดยนายใหญ่ “หงส์แดง” ระบุว่า “มันดีสำหรับผมที่เราได้รับรางวัลนั้น มีคนบอกว่าผมเป็นพระรองตลอดกาล แต่ผมไม่รู้สึกอย่างนั้น”
“ในเกมรอบชิงชนะเลิศที่เราไปถึงแสดงให้เห็นว่าเราสมารถทำอะไรบางอย่างได้ และมันก็ดีที่ผมไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีกแล้ว”
แต่ตอนนี้ คล็อปป์ ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มตำนานกุนซือ ลิเวอร์พูล แล้ว เขาได้เปลี่ยน “หงส์แดง” ให้เป็นหนึ่งในทีมที่น่ากลัวที่สุดในวงการฟุตบอลอีกครั้ง เขาได้สร้างทีมที่น่าตื่นเต้น ให้ความเคารพคู่แข่ง และได้รับเคารพจากแฟนบอลและคู่ต่อสู้
คล็อปป์ ทำให้ แอนฟิลด์ เป็นป้อมปราการเหล็กที่ยากจะมาเยือน และเป็นแรงบันดาลใจในการติดต่อกับแฟนบอลอย่างลึกซึ้ง ความทรงจำที่ดี และช่วงเวลาที่ตอนนี้มีถ้วยแชมป์เพื่อค้ำจุนพวกเขา โดย อดีตโต้ช ดอร์ทมุนด์ อ้างว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะสร้าง แอนฟิลด์ ในฝันของเขาได้เมื่อมาทำงานที่สโมสรแห่งนี้
“ถ้ามันเป็นไปตามที่คิดไว้ ผมก็ดีใจมาก แต่การฟื้นฟู ลิเวอร์พูล ไม่ได้เกี่ยวกับแฟนตาซีฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันเป็นการวางแผนอย่างพิถีพิถัน และกลยุทธ์การทำธุรกิจที่เน้นไปที่คุณค่าความเหมาะสม และศักยภาพในการพัฒนา”
เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน มีผลงานต่อเนื่องที่น่าชื่นชม โดยทำงานร่วมกับทีมงานที่ค่อนข้างเล็กและเหนียวแน่น แต่กำลังพิจารณาว่าสไตล์ของเขามีวิวัฒนาการมาอย่างไร จากการตอบโต้ที่มุ่งมั่นไปจนถึงการควบคุมพื้นที่ ก่อนที่ เปป ลินเดอร์ส โค้ชชาวฮอลแลนด์ กลับมาที่แอนฟิลด์อีกครั้ง ในฐานะผู้ช่วยกุนซือ
คล็อปป์ อธิบายว่า ลินเดอร์ส เป็นตัวตนของเขาในมุมมองที่หนุ่มกว่า โดยอดีตโค้ช“เสือเหลือง” เชื่อว่าความรุนแรง คือคำที่พูดถึง ลิเวอร์พูล และถึงแม้ว่าเขาคิดว่าคำจำกัดความนั้นกว้างขึ้นก็ตาม โดยระบุว่า “ในปีก่อนที่เราจะคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก เราเป็นทีมที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการแข่งขัน”
“ว้าว! เราทำประตูได้อย่างบ้าคลั่งในเกมกับ โรม่า ในเดือนเมษายน ปี 2018 และมันเป็นตัวอย่างที่ดีจากเตอนแรกที่เรา 5-0 แต่เราเสียไป 2 ประตู และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดยังคงเปิดกว้าง นั่นคือสิ่งที่เราเป็นในปีนั้น มันยังคงรุนแรง แต่จิตใจที่รุนแรงอาจจะมากกว่าร่างกายเป็นครั้งคราว ยิ่งคุณภาพสูงขึ้นเท่าไหร่ระดับก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น”
“ไม่ใช่ว่า คุณจะต้องวิ่งน้อยลง แต่คุณควบคุมลูกบอลได้มากขึ้น คุณโดดเด่นกว่ามาก สิ่งที่รุนแรงที่สุดที่เราต้องทำคือ เอาลูกบอลกลับมาเพื่อปิดช่องว่าง เราเล่น 50, 60 เกมต่อปี เราต้องการให้เด็กๆโชว์ฟอร์มในระดับสูงสุดที่พวกเขาสามารถทำได้ ดังนั้นเราไม่ต้องการให้พวกเขาเสียพลังงาน แน่นอนว่ามีบางโอกาสที่ไม่มีวิธีอื่นนอกจากใช้ขาของคุณเอง” นายใหญ่ ลิเวอร์พูล กล่าว
คล็อปป์ ยกเลิกแนวคิดของเกมรับที่ดันสูงขึ้น และจงใจทำให้ ลิเวอร์พูล มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยยืนยันว่าประตูที่ “หงส์แดง” เสียไปนั้น ยอมรับได้ แม้จนถึงตอนนี้พวกเขาจะเก็บคลีนชีตได้เพียงแต่นัดเดียวก็ตาม
“การตัดสินใจผิดพลาดในสนาม สถานการณ์แปลกๆ ไม่ใช่วิธีการที่แตกต่างออกไป เอเดรียน เป็นผู้รักษาประตูที่พึ่งจะย้ายมา และต้องลงสนามทันที แต่สำหรับความกล้าหาญในการเซฟประตูของเขาไม่มีข้อสงสัย และขาก็ต้องการเวลาเช่นกันในการประสานงานกับกองหลัง” คล็อปป์ กล่าว
อลิสสัน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิล กลับมาทำงานร่วมกับโค้ชผู้รักษาประตู จอห์น อัชเตอร์เบิร์ก แต่ก็ยังไม่พร้อมลงเฝ้าเสาหลังจากได้รับบาดเจ็บ และ ฟาน ไดจค์ เป็นกุญแจสำคัญในรับของ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วจนถึงตอนนี้ รวมถึง ฟาบินโญ่ กองกลางตัวรับแซมบ้า ที่ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง
ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “ฟาบินโญ่ เป็นกองกลางตัวรับที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการป้องกันขณะที่ฟูลแบ็คเต็มเกมไปข้างหน้า เขาพยายามควบคุมพื้นที่ทั้งริมเส้นในแนวรับ 2 ฝั่งของสนาม และเขาก็เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเกมด้วยเช่นกัน”
สถิติแสดงให้เห็นว่าทีมของ คล็อปป์ เริ่มโจมตีใกล้ปากประตูคู่แข่งมากกว่า ทีมอื่นๆ โดยเทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ระบุต่อว่า “ฟาบินโญ่ เล่นเหมือนที่เขาทำให้กับ โมนาโก เขาแค่ต้องการเวลาปรับตัวให้เข้ากับจังหวะของเรา และจังหวะเกมของพรีเมียร์ลีก”
ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ได้สร้าง 3 แนวรุก ไม่อาจต้านทานได้ ในขณะที่ มาเน่ และ ซาล่าห์ ถูกนำมาใช้เพื่อล่าตาข่ายคู่แข่ง แต่ผู้ปิดทองหลังพระอย่าง โรแบร์โต เฟอร์มิโน่ หัวหอกทีมชาติบราซิล ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในซีซั่นนี้
“มันเหลือเชื่อว่าพวกเขาพัฒนาไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม เฟอร์มิโน่ เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและแตกต่างออกไป แต่แน่นอนว่าเราเซ็นสัญญา มาเน่ และ ซาลาห์ เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีทักษะที่โดดเด่น ผมจำได้เมื่อเราพูดกับ โม ครั้งแรก เขาบอกผมว่า ซาดิโอ กำลังเล่นทางปีกขวา และเขาไม่เลวเลยใช่มั้ย”
“ผมก็พูดว่า ผมรู้ แต่เขาสามารถเล่นปีกอีกข้างได้เช่นกัน มันชัดเจนว่า ไม่ใช่แค่การผลักดันอีกคน พวกเขาสามารถเล่นด้วยกัน พวกเขาเป็นภัยคุกคามที่เหมาะสม มันได้กับ เฟอร์มิโน่ เช่นกัน เขาเป็นตัวเชื่อมต่อเกมที่แตกต่างออกไป อาจหมายถึงไลน์อัพที่แตกต่างกันแน่นอน แต่การมีกองหน้า 3 ตัวนี้ในรูปแบบนี้ ถือว่าดีอย่างมาก”
“ก่อนหน้านี้ เฟอร์มิโน่ ไม่ได้เล่นอย่างสม่ำเสมอเหมือนตอนนี้ แต่เขาเล่นฟุตบอลแบบนั้นในเยอรมนีมาแล้ว ดังนั้น ผมจึงคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดี เขาเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้ร้อง เขาเป็นดาวเด่นที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เขาทำประตูได้เกือบทั้งหมด เขาเป็นผู้เล่นที่ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เขาเล่นระหว่างแนวรุก และแดนกลางได้ดี เขาสร้างปัญหาทุกอย่างกับผมเมื่อผมอยู่ที่ ดอร์ทมุนด์”
“เขาไม่คิดว่า เขาจะกังวลอะไรทั้งนั้นจากภายนอก เขาไม่ใส่ใจคำวิจารณ์ เขาแค่ต้องการเล่นฟุตบอล สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเคารพจากเพื่อนร่วมทีมของคุณและพวกเขาก็เคารพ บ๊อบบี้ อย่างมากเช่นกัน” อดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ กล่าว
ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องมีการหมุนเวียนผู้เล่นในบางเกม และ คล็อปป์ ยอมรับว่ามันเป็นความท้าทายที่จะทำให้ผู้เล่นมีความสุข เมื่อองค์ประกอบทางเลือกอันดับแรกยังคงทำงานต่อไป นักเตะอย่าง โจ โกเมซ, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็ยังรอคอยโอกาสอยู่เสมอ
“เราอยู่ในจุดที่เราควรอยู่ เพราะพฤติกรรมของผู้เล่น เมื่อทีมเล่นกับไลน์อัพที่สอดคล้องกัน คุณสามารถสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับผู้เล่นที่ไม่ได้ลงเล่นได้เสมอ แต่ความสัมพันธ์ในห้องแต่งตัวบนพื้นที่การฝึกซ้อมมีความโดดเด่น ยอดเยี่ยมมาก่อน และดีกว่าตอนนี้ หลังจากที่เราชนะบางสิ่งด้วยกัน”
“แต่เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ส่วนบุคคลอิทธิพลมาจากภายนอก มีความท้าทายทุกวัน มีคนที่ได้ลงสนามได้รับคำชื่นชม คนที่นั่งเป็นตัวสำรองก็มีส่วนร่วม มันคือชีวิต เราจัดการกับมันในวิธีที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ ” คล็อปป์ กล่าว
การรักษาความสามัคคีของทีมยังคงสำคัญ แต่มันเป็นเรื่องของความคิด และอื่นๆอีกมากมาย โดยฤดูกาลที่แล้วในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เก็บได้ 97 คะแนน และแพ้เพียงครั้งเดียว แต่ก็ยังไม่ได้แชมป์ลีก และในฤดูกาลนี้ พวกเขามีคะแนนเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 5 คะแนนแล้ว และทำให้สโมสรมีสถิติสูงสุดในการชนะติดต่อกันถึง 14 ครั้ง
คล็อปป์ อธิบายถึงการคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้เสียงโจมตีจากในประเทศลดลง เนื่องจากเป็นเพียงการเริ่มต้นของเขา แต่ก็ไม่มีอะไรยอมแพ้ เขาหันไปเป็นโค้ชทุ่มบอลเมื่อปีที่แล้ว และในฤดูร้อนนี้ เขาเชิญนักเล่นกระดานโต้คลื่นมืออาชีพมาพูดคุยเกี่ยวกับการทำงาน
นายใหญ่ “หงส์แดง” ระบุว่า “ตาและหูของผมเปิดอยู่เสมอ แต่เราไม่ได้ชนะในแชมเปียนส์ ลีก เพราะเราจ้างโค้ชฝึกหัด เราไม่ได้มีองค์ประกอบด้านใดเพียงด้านเดียว ซึ่งจะทำให้เราเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก วิธีที่คุณชนะในลีกนี้คือ ผ่านความมั่นคง”
“เหตุผลที่เราทั้งคู่อยู่ที่นั่นจนจบฤดูกาลที่ผ่านมาคือ ความมั่นคง เราผลักดัน ซิตี้ และ ซิตี้ ผลักเรา เรายังต้องมีความสอดคล้องกันมากขึ้น หลังจากชนะ 14 เกมติดต่อกัน ซึ่งอาจฟังดูแปลก แต่เราต้องทำงานต่อไปเพราะความมั่นคงเป็นโอกาสเดียว”
“จากการรู้สึกประหลาดใจว่า เราเป็นตัวของตัวเองดีแค่ไหนที่จะคุ้นเคยกับมัน และการใช้มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ตอนนี้คุณเรียนรู้จากประสบการณ์ของคุณ และสร้างมันขึ้นมา คุณพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องอีกครั้ง”
“คำอธิบายของความกล้าหาญของ แชงค์ลี่ย์ อาจดึงดูดสายตาจากสรมเมลวู้ด แต่ภายในกำแพงของเขาคำแนะนำาว่า ความสำเร็จของฟุตบอลอยู่ในใจ คุณต้องเชื่อว่า คุณเป็นคนที่ดีที่สุดแล้วทำให้แน่ใจว่าคุณเป็นแบบนั้นจริงๆ มีความเชื่อมั่น ศรัทธา และความรักเป็นอย่างมากในสโมสรแห่งนี้ ตอนนี้เรารู้สึกว่าเรามีทีมที่แข็งแกร่งจริงๆ มันเป็นเวลาที่ดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ลิเวอร์พูล” คล็อปป์ กล่าวทิ้งท้าย
